ข่าวบ้านผือวันนี้ "ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.

พปชร.ดัน "หม่อมอุ๋ย" นําทีมเศราฐกิจในศึกเลือกตั้ง 4 พรรครัฐบาลไม่แตะ 112


พรรคร่วมรัฐบาล “พลังประชารัฐ-ประชาธิปัตย์-ชาติไทยพัฒนา-พลังท้องถิ่นไท” พาเหรดแสดงจุดยืนไม่เอาด้วย แก้ไขมาตรา 112 “วราวุธ” บอกถึงดินกลบหน้าก็ไม่ยอมให้แก้ไข
ประธานวิปรัฐบาลเชื่อภาพการเมืองชัดเจน หลังประชุมเอเปก โยนชื่อ “หม่อมอุ๋ย” เหมาะสมนั่งทีมเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐ “โภคิน” ลุยล่า 50,000 ชื่อ เสนอตั้ง ส.ส.ร.ยกร่างแก้รัฐธรรมนูญรอบใหม่ เตรียมยื่นเรื่องแสดงเจตจำนงต่อประธานรัฐสภา 25 ต.ค.นี้ “ชินวรณ์” บอก ปชป.พร้อมหนุนแก้ทุกเรื่องตามหลักธรรมาภิบาล โดดขวางห้ามแก้ เพื่อพาใครกลับบ้าน ผบ.ทบ.ปัดเผือกร้อนปมงาบหัวคิวกู้เงินบ้านพักทหาร ชี้เป็นความผิดส่วนตัวไม่เกี่ยวกองทัพ

หลังจากนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ตามนโยบายของพรรคก้าวไกล ล่าสุดพรรคร่วมรัฐบาลทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคพลังท้องถิ่นไท ต่างแสดงจุดยืนไม่ให้แก้ไขมาตรา 112 และยืนยันการปกป้องสถาบัน

พปชร.ดัน "หม่อมอุ๋ย" นําทีมเศราฐกิจในศึกเลือกตั้ง 4 พรรครัฐบาลไม่แตะ 112

เลือกตั้งใหญ่

ปชป.ร่วมชูธงไม่แก้มาตรา 112SPONSORED

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 20 ต.ค.ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลเสนอแก้รัฐธรรมนูญ 9 ประเด็น รวมถึงการเสนอให้แก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า จุดยืนพรรคประชาธิปัตย์ชัดเจนจะขอแก้ไขรัฐธรรมนูญทุกประเด็น เสนอให้มีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มายกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ประเด็นใดทำให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น พรรคไม่ขัดข้อง แต่ไม่เห็นด้วยการแก้ไขมาตรา 112 และหมวดเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ พรรคประชาธิปัตย์เห็นด้วยกับการทำประชามติไปพร้อมกับการเลือกตั้งครั้งถัดไป ให้ประชาชนมีส่วนร่วมแสดงความคิด จะให้แก้ทั้งฉบับหรือไม่ ส่วนความเห็นพรรคอื่นจะเป็นอย่างไร ในช่วงเลือกตั้งจะพูดคุยกับประชาชน แสดงให้เห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์ยืนหยัดอุดมการณ์ ยึดมั่นการปกครองระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข จะแก้รัฐธรรมนูญให้เป็นตามหลักธรรมาภิบาล ตอบโจทย์ประชาชนที่เรียกว่าประชา ธิปไตยกินได้ สิ่งสำคัญที่สุดคือให้รัฐธรรมนูญควบคุมกระบวนการทางการเมือง ข้าราชการให้บริหารราชการด้วยความสุจริต ถ้าใครดำเนินการเพื่อประโยชน์ส่วนตน พรรคใดจะดำเนินการเอาใครกลับบ้าน หรือมีนโยบายไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ พรรคนั้นๆ ต้องรับผิดชอบกันเอง

ชทพ.โชว์จุดยืนห้ามแตะต้อง

นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงจุดยืนพรรคชาติไทยพัฒนาต่อการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า จุดยืนพรรคชาติไทยพัฒนาคือไม่ไปยุ่งอะไรกับมาตรา 112 ตั้งแต่เกิดมาจนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่เห็นคนทั่วไปมีปัญหา อีกทั้งปัจจุบันขนาดบุคคลธรรมดายังมีคดีหมิ่นประมาทอยู่ในศาลตั้งหลายร้อยหลายพันคดี มาตรา 112 ไม่ใช่มาตราหาเรื่องใคร แต่ใช้เพื่อปกป้องสถาบันอันเป็นที่รัก หากมีใครอุตริไปหาเรื่อง จะต้องมีอุปกรณ์หรือกฎหมายใดปกป้องสถาบันได้ มาตรา 112 มีมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย ไม่เห็นใคร มีปัญหา หัวเด็ดตีนขาดก็ต้องมีมาตรา 112 ให้ดินกลบหน้าไม่ยอมแก้มาตรา 112 แน่นอน

พลังท้องถิ่นไทขอปกป้องสถาบัน

นายชัชวาลล์ คงอุดม ส.ส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท กล่าวถึงจุดยืนพรรคพลังท้องถิ่นไทในการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ว่า จุดยืนพรรคชัดเจนคือการปกป้องสถาบัน เป็นมาแบบนี้โดยตลอด ยืนยันไม่เห็นด้วย กับการแก้ไขมาตรา 112 เพราะสถาบันไม่ได้ทำอะไรให้ ไม่เข้าใจเหตุใดพรรคก้าวไกลจึงเสนอนโยบายเช่นนี้ หากพรรคก้าวไกลเสนอเรื่องดังกล่าวเข้ามาในสภาฯ พรรคพลังท้องถิ่นไทจะคัดค้านอย่างแน่นอน น.ส.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส. กทม. และโฆษก พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งกับการแก้ไขมาตรา 112 เพราะเป็นกฎหมายคุ้มครองประมุขของรัฐ พรรคพลังประชารัฐเทิดทูนสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ยึดมั่นแนวทางนี้ไม่เปลี่ยนแปลง

พปชร.ดัน "หม่อมอุ๋ย" นําทีมเศราฐกิจในศึกเลือกตั้ง 4 พรรครัฐบาลไม่แตะ 112

“นิโรธ” ชี้การเมืองชัดหลังเอเปก

นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าวแกนนำพรรคพลังประชารัฐเสนอ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐใช้ไม้แข็งตัดการดูแล ส.ส.ที่มีแนวโน้มย้ายพรรคว่าไม่ทราบ เพราะติดลงพื้นที่พบประชาชน ส่วนพรรคพลังประชารัฐจะเตรียมแนวทางรับมือ ส.ส.ย้ายพรรคในช่วงใกล้เลือกตั้งอย่างไรนั้น คิดว่ายังไม่ใกล้เลือกตั้ง ต้องรอดูสถานการณ์หลังเอเปก สัญญาณจึงจะชัดเจน นอกจากนี้ร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองยังอยู่ในการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ทราบผลจะออกมาเป็นอย่างไร คาดว่าผลการวินิจฉัยจะออกมาช่วงหลังปีใหม่ การแก้รัฐธรรมนูญเกี่ยวกับกติกาการเลือกตั้งจึงยังเป็นแบบครึ่งบกครึ่งน้ำ และยังไม่ทราบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะให้รัฐบาลอยู่ครบวาระ 4 ปี หรือพอใกล้ๆแล้วประกาศยุบสภา

ชู “หม่อมอุ๋ย” มือ ศก.พลังประชารัฐ

เมื่อถามว่าพรรคพลังประชารัฐจะหามือเศรษฐกิจมาอยู่ในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากประชาชนหรือไม่ นายนิโรธตอบว่า เป็นเรื่องผู้ใหญ่ต้องพูดคุยกัน ไม่ได้อยู่วงใน จึงตาไม่ถึง แต่มือเศรษฐกิจที่มีปัจจุบันจะเด่นด้านการตลาดส่วนใหญ่ อาจมาจากตลาดหลักทรัพย์ นักธุรกิจ นักวิชาการด้านการตลาด แต่คิดว่ามือเศรษฐกิจพรรคพลังประชารัฐควรมาจากผู้เชี่ยวชาญเศรษฐกิจมหภาค ที่เห็นคนหนึ่งคือ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตรองนายกรัฐมนตรี เพราะหลังจากผ่านโควิด-19 ประเทศต้องการมือเศรษฐกิจระดับมหภาคที่สร้างความมั่นคงให้ประเทศได้ คิดว่าผู้ใหญ่พรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.ประยุทธ์ก็มองเห็นประเด็นนี้มือเศรษฐกิจไม่จำเป็นต้องมาเป็นนายกรัฐมนตรี แต่มาเป็นทีมเศรษฐกิจก็ได้

สวน พท.คิดแต่พานักโทษกลับบ้าน

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย โจมตีโครงการคนละครึ่งไม่เกิดประโยชน์กับเศรษฐกิจว่าโครงการคนละครึ่งเฟส 5 ที่กำลังดำเนินการอยู่ มีประชาชนกว่า 26.5 ล้านคน ร้านค้ารายย่อยเกือบ 1 ล้านรายได้ประโยชน์ ผลประโยชน์จากโครงการคนละครึ่งเป็นของประชาชน ไม่ใช่ของนักการเมือง การที่นายพิชัยเสนอให้รัฐบาลแก้ปัญหาหนี้สินมากกว่าโครงการคนละครึ่ง ต้องถามว่าไปอยู่ดูไบมาหรืออย่างไร จึงไม่รู้ว่ารัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มุ่งเน้นแก้ปัญหาความยากจน นายพิชัยพูดแบบเลื่อนลอย ไม่มีข้อมูลเพียงพอ พยายามหาช่องตัดเงินประชาชนที่จะใช้จ่ายยามวิกฤติถึง 25 ล้านคน ทำลายความหวัง บรรยากาศการฟื้นตัวประเทศช่วงปลายปี อาจทำให้สังคมสงสัยพรรคเพื่อไทยให้ความสำคัญภารกิจพานักโทษหนีคดีทุจริตเพียง 2 คน กลับบ้านเท่านั้นหรือ

มั่นใจ 2 ก.ม.ลูกผ่านด่านศาล รธน.

นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย ในฐานะรองประธานกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง กล่าวถึงการพิจารณาร่างกฎหมายลูก 2 ฉบับที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าในส่วนร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีประเด็นสำคัญที่ศาลรัฐธรรมนูญส่งมาให้ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอความเห็นมาตรา 25 และ 26 เกี่ยวกับการเปลี่ยนระบบการเลือกตั้งจากบัตรใบเดียว เป็นบัตร 2 ใบ และขอข้อมูลมาตรา 23 และมาตรา 94 ที่ กมธ.ไม่ได้แก้ไข โดยให้ กกต.ส่งข้อมูลให้ภายใน 15 วัน กระบวนการดังกล่าวเป็นกระบวนการปกติที่เป็นไปตามระเบียบการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ คิดว่ายังอยู่ในห้วงเวลาที่กกต.สามารถดำเนินการได้ทันการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในครั้งต่อไป มั่นใจว่ากฎหมายลูกทั้ง 2 ฉบับไม่ขัดรัฐธรรมนูญ หากศาลรัฐธรรมนูญต้องการข้อมูลเพิ่ม กมธ.ยินดีส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้

โวยึดเรียบ 9 เก้าอี้ ส.ส.เมืองคอน

นายชินวรณ์ยังกล่าวถึงการเตรียมผู้สมัคร ส.ส.นครศรีธรรมราช ทั้ง 9 เขต ของพรรคประชาธิปัตย์ว่าได้ผู้สมัครครบทั้ง 9 เขตแล้ว จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 12 พ.ย. มีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการพรรค ร่วมเปิดตัวผู้สมัคร 9 เขต มีบุตรสาวตนลงสมัครเขต 6 คือ น.ส.ปุณณ์สิริ บุณยเกียรติ เชื่อจะประสานคนรุ่นเก่า รุ่นใหม่ในพรรคได้ การเลือกตั้งครั้งหน้าคนนครศรีธรรมราชขานรับพรรคประชาธิปัตย์จะได้ทั้ง 9 เขต เพราะได้คนรุ่นใหม่ รุ่นเก่า ประสานเป็นเนื้อเดียวกัน พรรคมีกระแสดีขึ้นในภาคใต้ การเลือกตั้งระบบบัตร 2 ใบ ทำให้ประชาชนตัดสินใจเลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ วันนี้ประชาชนพูดถึงพรรคประชาธิปัตย์ว่า พรรคเหมือนยางพารา มีขึ้นมีลง เป็นพืชเศรษฐกิจ แต่พรรคอื่นเป็นบอนสี ดังแค่ชั่วคราวเท่านั้น

พปชร.ดัน "หม่อมอุ๋ย" นําทีมเศราฐกิจในศึกเลือกตั้ง 4 พรรครัฐบาลไม่แตะ 112

มั่นใจกวาด ส.ส.ภาคใต้เพิ่มขึ้น

นายธนกร วังบุญคงชนะ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า มั่นใจว่าการเลือกตั้งสมัยหน้า พรรคพลังประชารัฐภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะได้ ส.ส.ภาคใต้เพิ่มขึ้น เพราะรัฐบาลมีผลงานชัดเจน ทุกปัญหาความเดือดร้อนที่ฝากผ่าน ส.ส.ภาคใต้ของพรรค หรือผ่านตนถูกส่งถึงรัฐบาลช่วยเหลือทันที ทำให้ ส.ส.ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐได้ใจคนใต้เป็นอย่างมาก ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม มีผลงานชัดเจน ทำมากกว่าพูด ลุยแก้ปัญหามากกว่าวิจารณ์อยู่แต่ในห้องแอร์ เน้นทำงานมากกว่าเล่นการเมือง

พท.เฉ่ง “บิ๊กตู่” เป็นโรคหลงตัวเอง

น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เหลือเวลาอีกไม่นาน พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม จะหมดวาระ แต่สิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์จะทำคือ ออก พ.ร.ก.กู้เงินอีก 1 ล้านล้านบาท เพราะรัฐบาลบริหารเศรษฐกิจล่มสลาย กู้เงินมาตลอด 8 ปี เงินกู้นี้จะเป็นเงินกู้ก้อนสุดท้ายของรัฐบาล แต่หวั่นใจรัฐบาลจะกู้เงินมาทำการเมืองมากกว่าใช้เพื่อประโยชน์ประชาชนหรือไม่ เพราะจากกติกาที่ออกมา มีเพียง พล.อ.ประยุทธ์ที่ใช้งบประมาณได้ กลัว พล.อ.ประยุทธ์จะใช้เงินภาษีประชาชนเอื้อพวกพ้อง พฤติกรรมที่แสดงออกที่ผ่านมา ทางการแพทย์ชี้ชัดว่า เป็นโรคหลงตัวเองแล้วไม่ยอมรักษา ไม่ต่างจากคนเป็นโรคจิตแล้วไม่ยอมรับตัวเอง หากอยู่ในอำนาจต่อเป็นโชคร้ายของคนไทย หลายประเทศผู้นำที่บ้าอำนาจส่งผลให้ประเทศล่มจม ไม่ต่างจากคนโง่มีอำนาจ คนลำบากคือประชาชน พล.อ.ประยุทธ์ไม่เหมาะสมในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตั้งแต่ต้น ล่าสุด ตั้งเป้าจะอยู่ให้ครบเทอม ประชาชนจะเดือดร้อน พล.อ.ประยุทธ์สะกดคำว่าจิตสำนึกไม่ถูก ถ้ารักประชาชนคงลาออกหรือยุบสภาไปนานแล้ว การกระทำของ พล.อ.ประยุทธ์ชัดเจนว่าไม่มีจิตสำนึกถึงประชาชนที่กำลังเดือดร้อนแม้แต่นิด

ล่าชื่อฟื้นแก้ รธน.รอบใหม่

ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา มีการแถลงข้อเสนอ “50 ปี 14 ตุลา ถึงเวลารัฐธรรมนูญฉบับประชาชน” โดยนายโภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศพรรคไทยสร้างไทย กล่าวว่า วันนี้บ้านเมืองถึงทางตัน เพราะฝ่ายการเมืองและทุนพรรคพวกยึดกุมประเทศ เกิดความขัดแย้งรุนแรง ถ้ามีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ประเทศไทยจะเดินหน้าต่อได้ ขณะนี้สังคมไทยตกผลึกร่วมกัน ต้องแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 ให้เป็นประชาธิปไตย เปิดทางให้มี ส.ส.ร.จากการเลือกตั้งทั้งประเทศมาร่างรัฐธรรมนูญ เพื่อตอบโจทย์ประชาชน ที่ผ่านมาพยายามผลักดันในรัฐสภาให้แก้รัฐธรรมนูญ แต่คาอยู่ในวาระ 3 เพราะมีการไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความต้องทำประชามติก่อน ดังนั้น วิธีที่เป็นไปได้คือ การเสนอร่างฉบับแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 แทน ไม่ได้จัดทำใหม่ทั้งฉบับตามที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยต้องทําประชามติก่อน จะเสนอให้แก้ตั้งแต่หมวด 3 เป็นต้นไป เปิดทางให้มี ส.ส.ร.มายกร่างรัฐธรรมนูญ จะไปยื่นเรื่องริเริ่มแก้ไขรัฐธรรมนูญโดยภาคประชาชน 50,000 รายชื่อ ต่อประธานรัฐสภาในวันที่ 25 ต.ค.นี้ หากไม่ทันการประชุมรัฐสภารอบนี้ ก็รอรอบหน้า เชื่อว่าทุกฝ่ายจะร่วมมือกันให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักความขัดแย้ง

จองเวรสอบสร้างสภาไม่ตรงปก

ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ อดีต ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และคณะกรรมการตรวจการจ้าง โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ กรณีทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำความผิดในหน้าที่ราชการ กรณีการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่ได้รับการร้องเรียนเรื่องการวางสายไฟใต้ดินสนาม ภายนอกอาคารรัฐสภาไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน นายวิลาศกล่าวว่า การวางสายไฟใต้ดินภายนอกอาคารรัฐสภา หลายจุดขุดลึกแค่ 5-10 ซม.เท่านั้น ไม่เป็นไปตามแบบที่ให้ขุดลึก 40 ซม.เกรงว่าจะได้รับอันตรายหากมีการขุดดินเพื่อปลูกต้นไม้ ขอให้ ป.ป.ช.พิจารณาดำเนินการ เพราะการอ้างว่ามีข้อผิดพลาดไม่น่าจะใช้เป็นข้ออ้างได้ อีกทั้งมีการจ่ายเงินงวดงานไปแล้ว ทั้งที่น่าจะมีการตรวจรับงานว่าทำตามแบบถูกต้องแล้วหรือไม่ ขอให้ ป.ป.ช.เอาผิดเพราะถือว่าความผิดสำเร็จแล้ว

พปชร.ดัน "หม่อมอุ๋ย" นําทีมเศราฐกิจในศึกเลือกตั้ง 4 พรรครัฐบาลไม่แตะ 112

“วัชระ” โต้กลับผู้รับเหมาแจงเท็จ

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น ชี้แจงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาดำเนินการอย่างถูกต้องตามแบบว่า การชี้แจงดังกล่าวเป็นเท็จ กล่าวหาพวกตนขัดขวางการส่งมอบงาน แต่เมื่องานไม่เสร็จประชาชนย่อมมีสิทธิทักท้วงต่อราชการ ได้ส่งหนังสือให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบถึงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาไม่เป็นไปตามแบบมากกว่า 20 เรื่อง แต่กลับเพิกเฉย แม้จะมีการซ่อมแซมแก้ไขไปแล้ว แต่ยังไม่ได้แก้ไขทั้งหมด ส่วนการอ้างมีกระบวนการกลั่นแกล้งนั้น ยืนยันไม่มีการกลั่นแกล้ง ประชาชนจะไปกลั่นแกล้งบริษัทก่อสร้างขนาดใหญ่ที่มีอำนาจบารมีมากล้นได้อย่างไร ตนทำหน้าที่ปกป้องเงินภาษีประชาชน เพราะบริษัทไม่ทำตามสัญญาหลายเรื่อง เซ็นสัญญาก่อสร้าง 900 วัน วงเงิน 12,280 ล้านบาท เบิกจ่ายไปเกือบหมดแล้วแต่ขยายเวลาก่อสร้างมาแล้ว 4 ครั้ง 1,864 วัน บริษัทกล้ารับประกันหรือไม่ว่าน้ำจะไม่รั่วอีกทั้งหลังคาและชั้นใต้ดิน

“บิ๊กบี้” ชี้ปมหัวคิวแค่เรื่องส่วนตัว

เมื่อเวลา 10.00 น.ที่กองบัญชาการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. กล่าวถึงปัญหาการกู้เงินซื้อบ้านกับสวัสดิการกองทัพบกที่มีผู้ประกอบการยื่นหนังสือร้องเรียนที่กระทรวงกลาโหมว่า เรื่องเงินกู้ในโครงการกู้ยืมออมทรัพย์ข้าราชการกองทัพบก (อทบ.) ได้สอบสวนเรียบร้อยแล้ว ขณะนี้กองทัพบกกำลังรวบรวมรายละเอียดส่งไปยังกระทรวงกลาโหม จากการสอบสวนพบเป็นเรื่องส่วนบุคคล ไม่ใช่หน่วยงานเป็นผู้กระทำ ผู้ได้รับผลกระทบได้ร้องเรียนทั้ง ป.ป.ช.และดำเนินคดีชั้นศาลแล้ว เป็นเรื่องต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนที่นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความ นำผู้ประกอบการที่มีปัญหากู้ซื้อบ้านสวัสดิการร้องเรียนกระทรวงกลาโหม กรณีถูกคุกคามนั้นต้องไปแจ้งความดำเนินคดี หากรู้ว่ากำลังพลคนใดคุกคามให้มายื่นที่กองทัพบก จะให้ความเป็นธรรม ดำเนินการกำลังพลคนนั้น การอ้างมีทหาร 40 กว่าคนเกี่ยวข้องนั้น กองทัพบกจะดำเนินการในส่วนทหารกองทัพบก หากเป็นทหารส่วนอื่น ส่วนที่เกี่ยวข้องก็ไปดำเนินการ การบอก 40 คนได้เลื่อนยศขึ้นขอถามว่าคนไหน ยังไม่รายชื่อก็บอกไม่ได้ ต้องว่าตามหลักฐาน ไม่ใช่การกล่าวหา

จบปัญหาล้มกู้ อทบ.ซื้อบ้าน

เมื่อถามว่ายืนยันได้หรือไม่ว่าไม่มีการหัก 5% เข้ากรมสวัสดิการกองทัพบก พล.อ.ณรงค์พันธ์ตอบว่า โครงการบ้าน กองทัพบกไม่ได้เป็นผู้สร้าง แต่ อทบ.ของกองทัพบกมีไว้ให้กำลังพลมากู้เงินไปซื้อบ้าน จึงเป็นการตกลงกันระหว่างคนซื้อกับเจ้าของโครงการ ไม่ใช่กองทัพบกเป็นผู้สร้าง เมื่อถามว่าจะแก้ไขปัญหาอย่างไร เพราะกำลังพลต้องกู้เงินไปซื้อบ้านเรื่อยๆ พล.อ.ณรงค์พันธ์ตอบว่าไม่มีแล้ว ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์กราดยิงที่ จ.นครราชสีมา พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ขณะนั้น สั่งยุติโครงการมาตั้งแต่ปี 2564 ก่อน พล.อ.อภิรัชต์เกษียณได้เซ็นเอ็มโอยูกับธนาคาร กำลังพลต้องไปกู้กับธนาคาร ไม่มีการกู้กับกองทัพบกมาตั้งแต่ปี 2564 ที่ผ่านมากองทัพบกลงโทษผู้เกี่ยวข้องไปแล้วหลายคน เมื่อถามว่าต้องแก้ไขระเบียบหรือไม่ เพราะลงโทษสถานเบา แค่งดบำเหน็จ และเอาออกจากตำแหน่ง พล.อ.ณรงค์พันธ์ตอบว่า เราดำเนินการตามกฎหมายทหารเวลานั้น ส่วนอนาคตต้องมาพิจารณาเป็นเรื่องๆ กฎหมายทหารมีจำนวนมาก ต้องปรับเปลี่ยนตามห้วงเวลา เป็นเรื่องปกติทุกองค์กรต้องมีปัญหา เมื่อมีปัญหาต้องแก้ไข ยืนยันเป็นเรื่องส่วนบุคคลไปตกลงกันเอง ส่วนที่ กมธ.ทหาร สภาผู้แทนราษฎร จะเชิญตนไปชี้แจงข้อมูลนั้น จะให้หน่วยรับผิดชอบไปชี้แจง ไม่ได้กังวลกรณีที่เกิดขึ้น

บี้ “บิ๊กตู่” หาต้นตองาบหัวคิว

น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การเปิดโปงกระบวนการหักหัวคิวเงินกู้ซื้อบ้านพักสวัสดิการทหาร เป็นปัญหาใหญ่ที่ถูกซุกไว้ใต้พรม แม้จะถูกเปิดโปงภายหลังเหตุโศกนาฏกรรม จ.นครราชสีมา ปี 2563 แต่วงจรอุบาทว์นี้ยังวนเวียนกัดกร่อนสังคม ไม่ถูกแก้ไขจนทุกวันนี้ ที่ผ่านมาหน่วยงานภายใต้กระทรวงกลาโหมถูกมองเป็นดินแดนสนธยา ยากต่อการตรวจสอบ สงสัยว่าหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม อยู่ในอำนาจ ได้ส่งผลให้อิทธิพลระบอบอำนาจนิยมแผ่ขยายมากขึ้นหรือไม่ รัฐบาลต้องเร่งสืบสาวหาต้นตอ หาผู้รับผิดชอบ ไม่ใช่ผลักภาระไปที่ผู้ประกอบการ หรือทหารชั้นผู้น้อย คนไทยยังจำคำมั่นสัญญาที่อดีต ผบ.ทบ.ให้ไว้ว่าจะปฏิรูปกองทัพภายใน 90 วันหลังเหตุโศกนาฏกรรม จ.นครราชสีมา คำมั่นของชายชาติทหารวันนั้น พล.อ.ประยุทธ์ได้ยินหรือไม่ หากไม่ได้ยินหรือจำไม่ได้ ขอให้จดจำเสียงร่ำไห้ครอบครัวผู้สูญเสียจากเหตุโศกนาฏกรรมต่างๆที่เกิดจากความล้มเหลวที่ในยุคที่ท่านเป็นนายกฯด้วย

ก้าวไกลเขย่า “บิ๊กบี้” ปฏิรูปกองทัพ

นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ. ระบุถึงปัญหาการกู้เงินซื้อบ้านกับสวัสดิการกองทัพบกเป็นเรื่องส่วนบุคคล ว่า ผบ.ทบ.ชี้แจงแบบขอไปทีแบบนี้ไม่ได้ กี่ครั้งกี่เหตุการณ์แล้วที่มีการตีแผ่กระบวนการปรสิตในกองทัพ เรามักได้เห็นได้ยินคำชี้แจงเอาตัวรอดของ ผบ.ทบ.เสมอ ไม่แน่ใจว่าทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงที่มีต้นเหตุจากการกดทับในกองทัพ ผบ.ทบ.ละอายหรือไม่ เชื่อยังมีขยะใต้พรมอีกมากที่รอการเปิดเผย ทางรอดเดียว หากกองทัพจะกอบกู้ศักดิ์ศรีต้องปฏิรูปกองทัพทันที แสดงความจริงใจให้สมกับเกียรติของทหารที่ท่านพล่ามบอกคนอื่น

“ยิ่งลักษณ์” ปลื้มลูกได้รางวัลเรียนเด่น

วันเดียวกัน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “วันนี้มาร่วมงานรับรางวัลลูกไปป์ หลังจากหลายปีก่อน แม่เศร้าและคิดถึงลูกมาก อยากให้ลูกมาเรียนที่ต่างประเทศ จะได้ดูแลลูกอย่างใกล้ชิด แต่ไปป์ขอเรียนจบมัธยมปลายที่ประเทศไทยก่อน พร้อมสัญญาจะตั้งใจเรียน ไม่ให้แม่ผิดหวัง เพื่อสอบเข้าเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่อิมพีเรียลคอลเลจ เนื่องจากมีสาขาวิศวกรรมเครื่องกลที่ไปป์สนใจ สาขานี้สอบเข้ายากมากแต่ลูกสอบได้ แม้เข้าไปแล้วต้องเผชิญการปรับตัววิกฤติโควิด ต้องเรียนทางไกล เป็นเรื่องยากสำหรับการเรียนวิศวะที่เน้นการปฏิบัติคู่กับทฤษฎี แต่ไปป์ทุ่มเท มุมานะกับการเรียนจนได้รางวัล “National Power Prize in Mechanical Engineering” หรือรางวัลคะแนนรวมสูงสุดของนักศึกษาปีที่ 2 ของมหาวิทยาลัย และอีก 2 รางวัลสำหรับนักศึกษาที่ได้คะแนนสูงสุดในวิชาหลักของคณะวิศวกรรมเครื่องกลคือคณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์ และการถ่ายเทความร้อน วันนี้จึงเป็นอีกวันหนึ่งที่แม่ภาคภูมิใจ ของขวัญที่สำคัญดีที่สุดในชีวิตคือ การเห็นลูกเติบโตเป็นคนดี มีคุณภาพ ดูแลตัวเองในอนาคตได้เป็นอย่างดี แม่จะคอยเป็นกำลังใจ อยู่เคียงข้างเสมอ เหมือนที่ไปป์เป็นกำลังใจให้แม่ยามเจออุปสรรคทุกช่วงชีวิต ดีใจสำหรับการรับรางวัลครั้งนี้ของลูก แม้แม่ต้องมาอยู่ต่างประเทศ แต่แม่ก็ขอบคุณลูกที่เป็นความภูมิใจให้แม่”

ไล่ออกผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฉี่ม่วง

นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ขณะนี้ทุกจังหวัดดำเนินการ Re X-Ray ตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทยในการประกาศสงครามยาเสพติดอย่างจริงจัง ด้วยการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายข้าราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดทุกคน รวมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ต.ค. 2565 ได้รับรายงานว่า จากการตรวจปัสสาวะเจ้าหน้าที่และกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน สารวัตรกำนัน ของ อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช พบผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ มีสารเสพติดในกระแสเลือด พบปัสสาวะสีม่วงชัดเจน จึงถูกไล่ออกจากทางราชการทันที ถือเป็นรายแรก ตำแหน่งผู้ช่วย ผู้ใหญ่บ้านเป็นตำแหน่งสำคัญ แต่ทำผิดเสียเอง จึงเอาไว้ไม่ได้ ถือว่าผิดวินัยร้ายแรง ขอย้ำให้เจ้าหน้าที่กระทรวงมหาดไทยทุกคนเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังยาเสพติด ห้ามข้องยาเสพติดทุกกรณี หากตรวจพบจะลงโทษทางวินัย และดำเนินคดีอาญาทันที

 

{Fullwidth}
แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื่อโฆษณา

ไทยบ้านผือนิวส์
"ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771-สนใตลงสื่อโฆษณา0612301227 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.