พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์สังหารหมู่สุดสะเทือนใจ ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.หนองบัวลำภูและ รพ.อุดรธานี พร้อมพระราชทานกระเช้าเยี่ยมและทรงโปรดเกล้าฯ ให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตกับผู้บาดเจ็บเข้าเฝ้า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรีฯ พระราชทานพวงมาลาและช่อดอกไม้วางที่จุดเกิดเหตุ สมเด็จพระสังฆราชประทานผ้าไตรและกัปปิยภัณฑ์แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต หน่วยราชการทั่วประเทศลดธงครึ่งเสาไว้อาลัยพร้อมแต่งดำไว้ทุกข์และร่วมส่งกำลังใจให้ผู้สูญเสียทุกคนผ่านช่วงเวลาอันเลวร้ายไปด้วยดี นายกฯสั่งกระทรวงดีอีเอสสกัดแก๊งหลอกบริจาคเงินจากเหตุการณ์ “หนองบัวลำภู” คนวงการบันเทิงที่เป็นแม่แล้วโพสต์ข้อความอาลัยในเหตุการณ์ อั้ม-พัชราภา ทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้ 37 ศพ ทีมวอลเลย์บอลสาวไทยติดริบบิ้นดำที่เสื้อและยืนไว้อาลัยกลางสนามแข่ง ในศึกวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก 2022 ยูนิเซฟประณามความรุนแรง สื่อต่างประเทศชี้เป็นการฆ่าหมู่เด็กโดยฆาตกรคนเดียวที่เลวร้ายที่สุดในโลก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระ นางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ เสด็จฯไปทรงเยี่ยมปลอบขวัญครอบครัวของเหล่าหนูน้อยนักเรียนและครอบครัวผู้เสียชีวิตกับผู้บาดเจ็บ จากเหตุการณ์กราดยิงสังหารหมู่ ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู รวม 37 ศพที่เกิดขึ้นเมื่อเที่ยงวันที่ 6 ต.ค. โดยน้ำพระทัยของทั้ง 2 พระองค์ ดุจดั่งน้ำทิพย์ชโลมใจแก่พสกนิกรผู้สูญเสียบุตรหลานจากเหตุการณ์สะเทือนใจ ขณะที่คนไทยทั้งประเทศยังคงมีน้ำตาแห่งความอาลัยและเศร้าสลดหดหู่ใจกับเหตุการณ์ที่ซาตานในคราบมนุษย์ก่อเหตุโหดเหี้ยมจนเกินใจรับไหว นับเป็นเหตุการณ์ช็อกโลกสะเทือนขวัญคนไทยทั่วประเทศ เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้นในไทยเป็นครั้งแรก
SPONSORED
ในหลวง-ราชินี ทรงเสียพระราชหฤทัย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยและทรงเสียพระราชหฤทัยต่อเหตุการณ์ทำร้ายเด็กและประชาชน ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ซึ่งทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตทั้งเด็กและผู้ใหญ่ ทรงรับทราบและทรงเข้าพระราชหฤทัยถึงความทุกข์ของครอบครัวผู้สูญเสีย หลังจากที่เสร็จจากการทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจในวันที่ 7 ต.ค.จึงมีพระราชประสงค์ที่จะเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมผู้บาดเจ็บ พร้อมกับพระราชทานขวัญกำลังใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสียเป็นการส่วนพระองค์
เสด็จส่วนพระองค์เยี่ยมผู้บาดเจ็บ
ทั้งนี้ เมื่อค่ำวันที่ 7 ต.ค. พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังท่าอากาศยานทหาร ดอนเมือง ประทับเครื่องบินพระที่นั่ง เสด็จฯไปทรงเยี่ยมผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ทำร้ายเด็กและประชาชนที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.หนองบัวลำภู ภายหลังเสด็จถึง รพ.หนองบัวลำภู นายสุวิทย์ จันทร์หวร รอง ผวจ.หนองบัวลำภู รักษาราชการแทน ผวจ.หนองบัวลำภู นพ.ไพฑูรย์ ใบประเสริญ ผอ.รพ. หนองบัวลำภู เฝ้ารับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จไปยังหน้าห้องเจาะเลือด รอง ผวจ.หนองบัวลำภู กราบ บังคมทูลสรุปเหตุการณ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานกระเช้าของเยี่ยมแก่นายสุวิทย์ จันทร์หวร รอง ผวจ.หนองบัวลำภู เป็นส่วนรวมเพื่อเชิญไปมอบแก่ผู้บาดเจ็บ จากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯไปทรงเยี่ยมผู้บาดเจ็บ จำนวน 5 รายภายในห้องไอซียู และเยี่ยมกลุ่มญาติที่ได้รับบาดเจ็บ เสร็จแล้วเสด็จไปทรงเยี่ยมครอบครัวผู้เสียชีวิตที่มาเข้าเฝ้าบริเวณหน้าห้องรังสีวินิจฉัย
พระราชทานกระเช้าพ่อแม่เด็ก 3 ขวบ
ต่อจากนั้นทั้ง 2 พระองค์เสด็จออกจาก รพ.หนองบัวลำภู ไปยัง รพ.อุดรธานี อ.เมืองอุดรธานี นายวันชัย คงเกษม ผวจ.อุดรธานี นพ.สุมน ตั้งสุนทรวิวัฒน์ รอง ผอ.รพ.รักษาราชการแทน ผอ.รพ.เฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จขึ้นตึกศัลยกรรมไปทรงเยี่ยม ด.ช.กฤษกร เรืองเจริญ อายุ 3 ขวบ ผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์ นพ.สุมนกราบบังคมทูลรายงานผลการรักษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานกระเช้าเยี่ยมแก่บิดามารดา ด.ช.กฤษกร ก่อนเสด็จฯไปประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จฯออกจาก รพ.อุดรธานีไปยังท่าอากาศยานกองบิน 23 เสด็จกลับกรุงเทพมหานคร
“สังฆราช” ประทานกัปปิยภัณฑ์
เมื่อช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค. สมเด็จพระอริยวงศา คตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาโปรดให้ไวยาวัจกรจัดกัปปิยภัณฑ์รายละ 2 หมื่นบาท ประทานแก่ครอบครัวของผู้เสียชีวิต เพื่อช่วยการบำเพ็ญกุศลศพทุกราย สำหรับผู้บาดเจ็บให้จัดกัปปิยภัณฑ์รายละสองหมื่นบาท ประทานแก่ผู้บาดเจ็บทุกราย เพื่อโดยเสด็จพระราชกุศลที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ในการรักษาพยาบาล ทั้งนี้ โปรดให้ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติเป็นผู้เชิญสิ่งของและกัปปิยภัณฑ์ประทาน ไปมอบแก่เจ้าภาพศพและผู้บาดเจ็บทุกรายตามพระประสงค์ โอกาสนี้ ยังมีรับสั่งประทานกำลังใจแก่ครอบ ครัว ญาติของผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บและผู้ได้รับผลกระทบทางจิตใจจากเหตุการณ์นี้ เพื่อเป็นส่วนทุเลาความเศร้าโศก
ทั่ว ปท.ลดธง-แต่งดำไว้ทุกข์
ขณะที่สถานที่ราชการ หน่วยงานรัฐและโรงเรียนต่างๆ ทั่วทุกภาคของประเทศ ต่างร่วมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อเหตุการณ์สะเทือนขวัญที่เกิดขึ้น ด้วยการลดธงครึ่งเสาเป็นการไว้อาลัย รวมทั้งเจ้าหน้าที่ก็แต่งชุดดำไว้ทุกข์ให้กับผู้เสียชีวิตด้วย สำหรับที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก 3 แห่งในพื้นที่ ต. คำป่าหลาย อ.เมืองมุกดาหาร หลังเกิดเหตุฆ่าหมู่เด็กๆ ที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ ปรากฏว่าในวันที่ 7 ต.ค. มีเด็กนักเรียนของศูนย์แห่งนี้หายไปกว่าครึ่งหนึ่งเนื่องจากผู้ปกครองไม่ให้มา นายไวพจน์ คำพิลา ครูประจำศูนย์ฯแห่งหนึ่งเผยว่าหลังทราบข่าวสลดที่ จ.หนองบัวลำภู ฝั่งปกครองที่มารับลูกหลานที่ศูนย์ฯ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่น่าจะเกิดขึ้นที่ประเทศเราและเช้าวันนี้มีเด็กมาเรียนที่ศูนย์เพียง 18 คน จาก 30 คน คาดว่าน่าจะเป็นผลกระทบจากเหตุการณ์สยอง
SPONSORED
สั่ง DES สกัดแก๊งหลอกบริจาคเงิน
อีกด้านที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 (บน.6) ดอนเมือง ช่วงเที่ยงวันเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นำ ครม.ส่วนหนึ่งเดินทางไป จ.หนองบัวลำภู เยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ก่อนเดินทาง พล.อ.ประยุทธ์ได้กำชับมาตรการช่วยเหลือเยียวยาให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลอย่างเต็มที่ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ไปดูแลไม่ให้เกิดปัญหาซ้ำเติมแอบอ้างหลอกลวงเรื่องการบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งหารือถึงหลักเกณฑ์การออกใบอนุญาตให้มีและใช้อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน โดยกระทรวงมหาดไทยรายงานยืนยันว่า กฎเกณฑ์พิจารณาออกใบอนุญาตมีใช้อาวุธปืนอย่างรอบคอบแล้ว
ขณะที่ นส.นพวรรณ หัวใจมั่น โฆษกดีอีเอสเผยว่า ดีอีเอสประสานผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียอย่างใกล้ชิด ไม่ให้มีการเผยแพร่ภาพไม่เหมาะสมที่ทำให้สังคมสะเทือนใจหรือทำร้ายใจญาติผู้เสียชีวิต โดยภาพไม่เหมาะสมได้ถูกทยอยถอด ลบ หรือจำกัดการมองเห็นบนสื่อโซเชียลแล้ว
จ่ายเยียวยาทายาทแล้ว 13.18 ล.
นายอนุชา บูรพชัยศรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า 3 หน่วยงาน คณะกรรมการกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัย สำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงยุติธรรม สำนักงานประกันสังคม (สปส.) จ่ายเงินช่วยเหลือทายาทผู้เสียชีวิตแล้วรวม 13,185,555 บาท ทั้งนี้จะมีการพิจารณาความช่วยเหลือเพิ่มเติมด้วย เช่น กรมคุ้มครองสิทธิเสรีภาพพิจารณากรณีผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ขณะปฏิบัติงาน คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้ตั้งศูนย์เพื่ออำนวยความสะดวกด้านประกันภัย เร่งช่วยเหลือด้านประกันภัยคุ้มครองสิทธิประโยชน์แก่ผู้ประสบเหตุด้วย
ประธานสภาโลกร่วมเสียใจ
ส่วนที่ทำเนียบรัฐบาลได้ลดธงครึ่งเสาทั้งบนตึกไทยคู่ฟ้าและสนามหญ้าหน้าตึกสันติไมตรี ในวันที่ 7 ต.ค. เป็นกรณีพิเศษ 1 วัน และก่อนประกอบกิจกรรมของภาคส่วนต่างๆมีการยืนไว้อาลัยต่อเหตุสลดที่เกิดขึ้น อาทิ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ได้ขอให้ผู้เข้าร่วมประชุมเชิงวิชาการ สภาวิชาชีพบัญชีฯภายใต้ชื่อ ASEAN CPA Con ference : Empowering and Enhancing Sustainability of ASEAN ยืนไว้อาลัยก่อนเริ่มประชุม ส่วนนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ที่นำคณะผู้แทนรัฐสภาไทย ไปร่วมประชุมสุดยอดประธานรัฐสภา G20 ที่กรุงจาการ์ตา สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 5-9 ต.ค.ได้ส่งสารความเสียใจมายังครอบครัวญาติผู้เสียหายและชาว จ.หนองบัวลำภู นายชวนเผยว่า อินโดนีเซียในฐานะประธานกลุ่ม APPF ตัวแทนผู้เข้าร่วมประชุมจากหลายประเทศ รวมถึงประธานสภาโลกของอินเดียได้ร่วมแสดงความเสียใจเป็นพิเศษ นอกจากนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ร่วมลดธงครึ่งเสาด้วยเช่นกัน
สปส.จ่ายทดแทนผู้ประกันตน 2.4 ล้าน
นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน กล่าวว่า มีผู้ประกันตนเสียชีวิตในเหตุกราดยิงที่ จ.หนองบัวลำภู 2 ราย คือนายวีรชน บุญวิเชียร ผู้ประกันตน ม. 33 ลูกจ้าง อบต.อุทัยสวรรค์ ได้รับสิทธิจากกองทุนเงินทดแทนเป็นค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีตาย 120 เดือน 1,035,720 บาท เงินสมทบกรณีชราภาพ 88 งวด เดือนละ 48,525 บาท รวม 1,134,245 บาท นายสันติ ประทุมชัย ผู้ประกันตน ม. 33 ลูกจ้าง อบต.อุทัยสวรรค์ ได้เงินค่าทำศพ 50,000 บาท เงินทดแทนกรณีตาย 120 เดือน 1,078,560 บาท เงินสมทบกรณีชราภาพ 63 งวดเดือนละ 35,226 บาท รวม 1,163,786 บาท นอกจากนี้ยังมีผู้เสียชีวิตอีก 5 ราย ที่เคยเป็นผู้ประกันตน ม. 33 มาก่อน ยังมีเงินสมทบกรณีชราภาพแตกต่างกันตามระยะเวลาทำงาน คือนายวรัญชัย ประภาสพงษ์ 25,277 บาท นายศักดิ์สิทธิ์ รักษาพล 64,083 บาท นายวงศ์ธวัช มูลโต ได้เพียง 199 บาท นางเพชรนภา สาระสิทธิ์ 32,166 บาท นายปัญญา คำราบ 5,799 บาท รวมจ่ายสิทธิประโยชน์ทั้งสิ้น 2,425,555 บาท
SPONSORED
คาดฆาตกรก่อเหตุเพราะแค้น
รศ.นพ.วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวชศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวถึงเหตุการณ์สังหารหมู่ที่ จ.หนองบัวลำภู ที่มีจุดน่าสังเกตว่าเด็กทุกคนถูกฆ่าด้วยการฟันหัวเป็นรูปกากบาท ว่า จากการตรวจสอบพบเป็นการฟัน 1 หรือ 2 ครั้ง เพื่อให้เสียชีวิต ไม่ได้เป็นการแสดงเชิงสัญลักษณ์แต่อย่างใด กรณีที่เกิดขึ้นคาดว่าก่อเหตุเพราะโกรธแค้น รู้สึกว่าตัวเองถูกกระทำการตรวจสอบไม่พบยาเสพติด ความรุนแรงที่ก่อจึงเป็นการเรียกร้องความสนใจจากสังคม ต้องการให้เป็นข่าว โดยเลือกศูนย์เลี้ยงเด็กเล็กอันเป็นจุดที่เข้าถึงและกระทำความรุนแรงได้ง่ายเป็นการกระทำที่เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม มีการวางแผนที่จะก่อเหตุ จากการตรวจสอบเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วโลกรวมทั้งในไทยพบมีเพียง 5% ที่ผู้ก่อเหตุมีอาการเข้าข่ายจิตเวช ดังนั้น ต้องย้อนไปดูในวัยเด็กของผู้ก่อเหตุว่าเติบโตมาอย่างไร เหมือนคดีที่เคยเกิดขึ้นที่ จ.สงขลา ที่ผู้ก่อเหตุฆ่ายกครัวและแขวนคอทุกศพ เพราะในวัยเด็กเคยเห็นพ่อกับแม่ถูกแขวนคอตายที่บ้าน
“หนองบัวพิชญ” ใส่ชุดดำลงแข่ง
ท่ามกลางความสะเทือนใจต่อเหตุการณ์ฆ่าหมู่ ที่ จ.หนองบัวลำภู บรรดาสโมสรฟุตบอลชื่อดังทั่วโลก นำโดยลิเวอร์พูล เชลซี เลสเตอร์ ซิตี้ บาเยิร์น มิวนิค ต่างโพสต์ข้อความแสดงความเสียใจต่อ เหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนฟุตบอลทุกลีกทุกคู่ในไทยสุดสัปดาห์นี้ ก่อนแข่งขันจะมีการยืนไว้อาลัยต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น โดยแชมป์-กรวีร์ ปริศนานันทกุล รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลีก จำกัด เผยว่า ฟุตบอลไทยลีก ทุกลีก ทุกคู่ สุดสัปดาห์นี้ก่อนแข่งขันจะมีการยืนไว้อาลัยต่อความสูญเสียดังกล่าวและหากจะสวมปลอกแขนดำลงแข่งขันก็ทำได้ ด้านทีมหนองบัวพิชญที่มีความสะเทือนใจต่อการสูญเสีย “เปิ้ล” วีระชน บุตรวิเชียร อดีตสมาชิกร่วมทีมหนองบัวลำภู เอฟซี ในยุคเริ่มแรกของสโมสรจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ขอใส่ชุดดำลงสนามในการปะทะแข้งกับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด วันที่ 8 ต.ค. และขอความร่วมมือแฟนบอลงดอุปกรณ์การเชียร์เข้าสนาม ขณะที่มาดามแป้ง-นวลพรรณ ล่ำซำ ให้ลูกทีมการท่าเรือ สวมปลอกแขนดำในเกมพบเมืองทอง ยูไนเต็ด วันที่ 9 ต.ค.เพื่อร่วมไว้อาลัย ด้านทีมตบลูกยางสาวไทยจะติดริบบิ้นดำที่แขนเสื้อซ้ายและสมาพันธุ์วอลเล่ย์บอลอนุมัติให้ยืนไว้อาลัยช่วงก่อนเกมการทำศึกวอลเลย์บอลชิงแชมป์โลก 2022
หัวอกแม่คนบันเทิงสุดสะเทือนใจ
นอกเหนือจากทุกภาคส่วนของไทยจะร่วมไว้อาลัยต่อเหตุการณ์สุดสะเทือนขวัญที่ จ.หนองบัวลำภูแล้ว ในส่วนบุคคลในวงการบันเทิงได้พากันโพสต์ข้อความไว้อาลัย และร่วมแสดงความเสียใจกับผู้สูญเสีย ในสื่อสังคมออนไลน์ อาทิ ชมพู่-อารยา เอ ฮาร์เก็ต แอฟ-ทักษอร ภักดิ์สุขเจริญ กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ ชี ลีเดีย-ศรัณย์รัชต์ ดีน มาร์กี้-ราศรี จิราธิวัฒน์ ป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ นานา ไรบีนา หน่อย-บุษกร วงศ์พัวพันธ์ โดยหลายคนมีลูกแล้ว จึงยิ่งสะเทือนใจ และเข้าใจหัวอกพ่อแม่ที่ต้องสูญเสียลูกน้อยไปอย่างไม่มีวันกลับ รวมทั้งคนดัง อาทิ เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ สรยุทธ สุทัศนะจินดา เบลล่า-ราณี แคมเปน ญาญ่า อุรัสยา-เสปอร์บันด์ คิม-คิมเบอร์ลี่ โวลเทมัส บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เอมี่ กลิ่นประทุม คริส หอวัง แอนชิลี สก๊อต-เคมมิส เอ-ศุภชัย ศรีวิจิตร มิลลิ คณาธีรกุล ไบร์ท-วชิรวิชญ์ ชีวอารี วิน-เมธวิน โอภาสเอี่ยมขจร และบุคคลมีชื่อเสียงอีกจำนวนมากต่างร่วมแสดงความเสียใจ
“อั้ม” ทำบุญอุทิศกุศลให้ 37 ศพ
ด้านซุปเปอร์สตาร์ อั้ม-พัชราภา ไชยเชื้อ ได้โพสต์ไอจีสตอรีไปทำบุญที่วัดแห่งหนึ่งย่านเกษตร-นวมินทร์ อุทิศส่วนกุศลให้ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์กราดยิง รวมทั้งพิธีกรสาว แพท-ณปภา โพสต์ภาพทำบุญบริจาคโลงศพที่มูลนิธิร่วมกตัญญู วัดหัวลำโพง อุทิศส่วนกุศลให้เหยื่อเหตุกราดยิงเช่นกัน ขณะที่นักแสดงหนุ่ม แทค-ภรัณยู โรจนวุฒิธรรม ในฐานะคุณพ่อลูกหนึ่ง โพสต์ข้อความเดือดยอมรับว่าโกรธจนตัวสั่น ระบุว่าถ้าคิดจะตายตายคนเดียว อย่าเอาคนที่ไม่รู้เรื่องตายไปด้วย พร้อมประณามเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนี้
“เจนนี่” รินน้ำตาแต่งเพลงไว้อาลัย
ขณะที่นักร้องสาว “เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น” หรือรัชนก สุวรรณเกตุ คุณแม่ของน้องยูจิน ลูกสาววัย 4 เดือน ได้ร่วมแต่งเพลงไว้อาลัยเหตุสะเทือนขวัญดังกล่าว โดยระบุว่าแต่งไปร้องไห้ไป โดยเจนนี่ และศิลปินในค่ายได้ร่วมร้องเพลงนี้เผยแพร่ในเฟซบุ๊กน้องเจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ถ่ายทอดหัวใจของคนเป็นแม่เนื้อหาว่า “ไม่มีอีกแล้ว รอยยิ้มของดวงใจเมื่อลูกจากไป หัวใจของแม่สั่นคลอนเจ้าไปไม่ลา ไม่มีแม่คำพูดจา โอ้ลูกจ๋า เขามาพรากหนูทำไมหดหู่หัวใจ ลูกจากไปไม่หวนคืน แม่นอนสะอื้นร้องไห้ ฮือๆ ป่านนี้ลูกทำอะไร สบายดีไหม ยังตกใจหรือเปล่า ลูกคงนอนหนาว เฝ้ารอคอยแม่อยากกอดเหลือเกิน จะเดินแทบไม่ไหว จะอยู่อย่างไร เมื่อหัวใจของแม่สลายฝันครั้งสุดท้าย ก่อนลูกจากไป ขอให้หลับฝันดี” ทำให้มีประชาชนเข้ามาแสดงความเห็นและร่วมแสดงความเสียใจจำนวนมาก
สถานทูต ตปท.ในไทยให้กำลังใจ
วันเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศต่างๆในไทยต่างร่วมแสดงความเสียใจกับโศกนาฏกรรมสลดที่ จ.หนองบัวลำภู อาทิ สถานเอกอัครราชทูตสวีเดน เยอรมนี อังกฤษ สหรัฐอเมริกา นิวซีแลนด์ ญี่ปุ่น และยังร่วมไว้อาลัยผู้วายชนม์ด้วยการลดธงครึ่งเสาพร้อมส่งข้อความให้กำลังใจและขออยู่เคียงข้างครอบครัวเหยื่อผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บในช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวดอย่างยิ่งนี้
ยูนิเซฟประณามความรุนแรง
นอกจากนี้ เหล่าผู้นำโลกและองค์กรระหว่างประเทศได้ออกมาร่วมแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งและไว้อาลัยต่อเหตุการณ์สังหารหมู่ โดยองค์การยูนิเซฟระบุว่าเจ็บปวดกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นกับเด็กเล็กและขอประณามความรุนแรงต่อเด็กในทุกรูปแบบ ทั้งไม่ควรมีเด็กตกเป็นเป้าหมาย เป็นเหยื่อ หรือเป็นผู้พบเห็นความรุนแรงว่าจะเป็นที่ใดก็ตามในโลก ส่วนนายอันโตนิโอ กูเตร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ นายเจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงของประธานาธิบดีสหรัฐฯ นายแอนโทนี บลิงเคน รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่าตกใจอย่างยิ่ง และขอส่งกำลังใจให้กับครอบครัวเหยื่อในช่วงเวลาอันเศร้าโศกนี้ ส่วนนายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ได้เขียนสารแสดงความเสียใจส่งตรงถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เป็นการฆ่าหมู่เด็กเลวร้ายสุดในโลก
ขณะเดียวกัน สื่อใหญ่ต่างประเทศหลายสำนักยังคงติดตามข่าวฆาตกรรมสลดที่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก จ.หนองบัวลำภูอย่างต่อเนื่อง โดยชี้เป็นหนึ่งในเหตุสังหารหมู่ที่รุนแรงสุดของไทยและเป็นหนึ่งในเหตุสังหารหมู่เด็กโดยฆาตกรคนเดียวครั้งเลวร้ายที่สุดของโลก รองจากคดีสังหารหมู่แคมป์ฤดูร้อนที่นอร์เวย์เมื่อปี 2554 ที่มีผู้เสียชีวิต 69 ราย ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน ส่วนเหตุสะเทือนขวัญคล้ายคลึงกันในไทยก่อนหน้านี้คือเหตุการณ์กราดยิงโคราช ที่คนร้ายเป็นทหาร ยิงคนเสียชีวิต 29 ราย บาดเจ็บ 57 ราย
เผยสถิติครอบครองปืนของไทย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่ากฎหมายปืนในไทยค่อนข้างเข้มงวดและผู้ครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมายอาจได้รับโทษจำคุกสูงสุด 10 ปี อย่างไรก็ตาม ตัวเลขผู้ครอบครองปืนในไทยอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไม่นับรวมอาวุธปืนเถื่อนที่ซื้อขายผ่านทางชายแดน ด้านซีเอ็นเอ็นรายงานข้อมูลจากองค์กรสำรวจอาวุธปืนขนาดเล็กหรือเอสเอเอสของสวิตเซอร์ แลนด์ ในปี 2560 ระบุว่า ตัวเลขผู้ครอบครองอาวุธปืนในไทยอยู่ที่ 10.3 ล้านคน หรือคิดเป็น 15 ต่อ 100 ส่วนอัตราการเสียชีวิตจากอาวุธปืนในอาเซียนนั้น ไทยเป็นรองเพียงฟิลิปปินส์ สำนักข่าวเอพีรายงานสอดคล้องกันว่า จากสถิติในปี 2562 พบว่า เหตุเสียชีวิตจากปืนในไทยสูงกว่าญี่ปุ่นและสิงคโปร์ที่มีกฎหมายควบคุมปืนที่เข้มงวดมากแต่ต่ำกว่าสหรัฐอเมริกา ที่ตัวเลขอยู่ที่ 11 ต่อ 100,000 คนส่วนบราซิลเกือบ 23 ต่อ 100,000 คน ขณะที่ไทยอยู่ที่ 4 ต่อ 100,000 คน
>{Fullwidth}
