ข่าวบ้านผือวันนี้ "ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.

"วีระกร" รุกหนัก กดดันตู่! เคลียร์ใจ "ป้อม" บีบเปิดหน้าสมัครเข้า พปชร.

 


ปชช. พท.โอ่ภาคธุรกิจขานรับ “เศรษฐา” แคนดิเดตนายกฯ รอเวลา กก.บห.ชี้ขาด “ศิธา” ยันพร้อมผสมพันธุ์ สอท.ถ้าไม่เอาเผด็จการ “สุรนันทน์” ตั้งแง่ควบรวม “สมคิด” ต้องอันดับ 1 “สมชัย” โวยข่าวปล่อยลาก สร.ยุบรวม “วีระกร” จี้ 2 ป.เคลียร์ให้ชัดแคนดิเดตนายกฯใครเบอร์ 1 เบอร์ 2 บี้ “ลุงตู่” รีบสมัครเข้า พปชร. เลิกยืนไม่รู้ร้อนรู้หนาว “เพื่อชาติ” ยุคใหม่อาสาแก้ปัญหาชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า “หน.ฮาย” ปักธงลดความเหลื่อมล้ำ สร้างเศรษฐกิจที่เป็นธรรม “ยงยุทธ” ถอยเป็นนั่งร้าน ปลุกต้านนายทุน ปฏิรูปจัดสรรทรัพยากร

ภาคประชาชนและพรรคการเมือง ร่วมจัดงานรำลึกครบรอบ 49 ปี เหตุการณ์ 14 ตุลา 16 โดยวางพวงมาลาสดุดีดวงวิญญาณวีรชน ผู้เสียสละเลือดเนื้อ เพื่อต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย

"วีระกร" รุกหนัก กดดันตู่! เคลียร์ใจ "ป้อม" บีบเปิดหน้าสมัครเข้า พปชร.

มวลชนรำลึก 49 ปี 14 ตุลา 16

เมื่อ 07.30 น. วันที่ 14 ต.ค.ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา สี่แยกคอกวัว ถนนราชดำเนินกลาง มูลนิธิ 14 ตุลา นำโดย นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ ประธานมูลนิธิฯพร้อมภาคีเครือข่ายร่วมกันจัดงานรำลึกเหตุการณ์ที่ทหารใช้กำลังเข้าปราบปรามการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษาที่ออกมาเรียกร้องรัฐธรรมนูญจนนำมาสู่เหตุการณ์นองเลือดในวันที่ 14 ต.ค.2516 มีญาติเหล่าผู้เสียชีวิต อดีตผู้ร่วมต่อสู้ในเหตุการณ์ ผู้แทนฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ นักการเมือง ผู้นำแรงงาน นักกิจกรรมสังคม อดีตสหายผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย เข้าร่วมวางพวงมาลารำลึกถึงเหล่าวีรชนที่วายชนม์ อาทิ นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกฯ ตัวแทนนายกฯ น.ส.ผ่องศรี ธาราภูมิ ตัวแทนประธานรัฐสภา นายวสันต์ ภัยหลีกลี้ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ พรรคประชาธิปัตย์ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร พรรคเสรีรวมไทย น.ส.พรรณิการ์ วานิช คณะก้าวหน้า และยังมีเครือข่ายม็อบราษฏร อาทิ นายฉัตรชัย พุ่มพวง สหภาพคนทำงาน นายสมยศ พฤกษาเกษมสุข กลุ่มคณะรณรงค์ยกเลิก มาตรา 112 น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ น.ส. เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง กลุ่มทะลุวัง

“ไอติม” ชี้เผด็จการสู้กลับต้องรับมือให้ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าพิธีประกอบด้วยการทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ วางพวงมาลา-กล่าวรำลึก 14 ตุลาของตัวแทนภาคส่วนต่างๆ การอ่านบทกวีโดยนางจิระนันท์ พิตรปรีชา อดีตคนเดือนตุลา ไฮไลต์คือการปาฐกถาของนายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม พรรคก้าวไกล หัวข้อ “14 ตุลา 16 ปลดปล่อยพลังสร้างสรรค์สังคมไทยได้แค่ไหน” ตอนหนึ่งว่า แม้ปัจจุบันการบริหารประเทศของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเจอข้อครหาไม่ต่างกับสมัยจอมพลถนอม กิตติขจร แต่อ้างการประชามติรัฐธรรมนูญ 59 และการเลือกตั้งทั่วไปปี 62 มาฟอกขาวการดำรงอยู่ในอำนาจต่อ สะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของเผด็จการ เพิ่มความชอบธรรมจากรัฐประหารอย่างเดียวมาเป็นเผด็จการซ่อนรูปเข้าแทรกแซงกติกาเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้งทั้งยังบริหารประเทศโดยทำลายรากฐานระบอบประชาธิปไตย ใช้กฎหมายอำนาจนิยมกำจัดผู้เห็นต่าง แทรกแซงกลไกตรวจสอบถ่วงดุล ถือเป็นการสู้กลับของเผด็จการที่เป็นความท้าทายให้คนรุ่นใหม่ต้องเผชิญ

ขอเห็นใจนักสู้รุ่นใหม่ลองผิดลองถูก

“การลุกขึ้นมาต่อสู้ของมวลชนในวันนี้เมื่อ 49 ปีก่อน สร้างแรงดลบันดาลใจให้ผู้คนจำนวนมหาศาล แต่โลกที่เราอยู่ตอนนี้ไม่ใช่ใบเดียวกับเมื่อ 49 ปีที่แล้ว ต้องเข้าใจในความต่างของคนสองยุคสมัยด้วย คนรุ่นใหม่อาจได้ประโยชน์ที่มีตำราประวัติศาสตร์ในมือ แต่การต่อสู้ของคนรุ่นใหม่ปัจจุบันต้องลองผิดลองถูกโดยไม่มีใครรู้บทสรุปในอนาคต ขอบคุณและขอแสดงความนับถือคนรุ่น 14 ตุลา แต่ขอฝากว่าคนรุ่นใหม่กำลังต่อสู้เพื่อสิทธิเสรีภาพในยุคสมัยเขาเช่นกัน จะด้วยวิธีการที่ถูกใจแนวคิดที่ท่านเห็นด้วยหรือไม่ แต่หวังว่าประสบการณ์ที่ผ่านมาจะทำให้เห็นใจ และเข้าใจว่าความฝันคนรุ่นนี้ไม่ต่างกับรุ่นท่านมากนัก หวังว่าจะเป็นกำลังสำคัญช่วยประคับประคองไม่ให้สังคมเกิดความรุนแรงเหมือนที่ท่านเคยประสบมา เพราะประชาธิปไตยต้องมีประชาชนทุกคนทุกรุ่นก้าวไปด้วยกัน” นายพริษฐ์กล่าว

"วีระกร" รุกหนัก กดดันตู่! เคลียร์ใจ "ป้อม" บีบเปิดหน้าสมัครเข้า พปชร.

พท.ร่วมสดุดีผู้ก่อร่าง ปชต.

นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ขอคารวะและรำลึกถึง วีรชน 14 ตุลาทุกคนด้วยจิตศรัทธาการต่อสู้ของวีรชนผู้กล้า ทั้งที่เป็นผู้วายชนม์และผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นจุดเริ่มต้นการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แม้ผ่านมา 49 ปีการเมืองในประเทศไทยมีกลไกประชาธิปไตยที่ไม่แท้จริง เป็นประชาธิปไตยเพียงรูปแบบ แต่จากประสบการณ์ของวีรชนผู้กล้าหาญในวันนั้น ได้ก่อรูปร่างสร้างระบอบประชาธิปไตยที่ฝังแน่นในหัวใจประชาชน ส่งต่อสืบทอดมาถึงคนรุ่นนี้ ด้าน น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวว่า ขอระลึกถึงและสดุดีทุกดวงวิญญาณวีรชนเหตุการณ์ 14 ตุลา แม้ผ่านมาเกือบ 50 ปี แต่การเมืองไทยวนลูปเดิมคือ “ยึดอำนาจ-ร่างรัฐธรรมนูญ-ผู้นำทหารตั้งพรรค-มีการเลือกตั้ง” สังคมไทยได้เรียนรู้มากมายจากคณะ “3 ป.” เรียนรู้ว่าผู้มีอำนาจหวงแหนอำนาจ ได้เรียนรู้ว่าผู้นำที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมีส่วนสนับสนุนมาจาก ส.ว.250 คน ไม่ยึดโยงกับประชาชน จากหลายเหตุการณ์การต่อสู้ทางการเมืองบทเรียนต้องไม่กลายเป็นบทลืม ทุกคนเรียนรู้ร่วมกันได้และต้องก้าวเดินไปด้วยกัน

ก้าวไกลชูธงทำ ปชต.ให้ตรงปก

นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นตัวเเทนพรรค ก.ก.กล่าวสดุดี และคารวะดวงวิญญาณของวีรชน 14 ตุลาว่าเป็นทั้งชัยชนะและความพ่ายแพ้ที่ขับไล่เผด็จการได้ แต่ภายใน 3 ปีเผด็จการกลับมาครองอำนาจมีบทบาทในช่วง 6 ตุลา 19 เหตุการณ์ความรุนแรง 14 ตุลา 16 หรือ 6 ตุลา 19 และพฤษภาทมิฬปี 53 สะท้อนว่าเราไม่สามารถขับไล่เผด็จการและมีชัยชนะเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ การขับไล่ยังไม่เพียงพอ เราต้องเปลี่ยนที่โครงสร้างประเทศเอากองทัพออกจากการเมือง ยุติอำนาจนอกรัฐธรรมนูญหรือมือที่มองไม่เห็นแทรกแซงทางการเมืองกว่า 90 ปีระบอบประชาธิปไตยของประเทศไทยยังไม่ตรงปก ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงประเทศให้เป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์เป็นภารกิจสำคัญที่ต้องทำ

ก้าวหน้ายันปฏิรูปทุกสถาบัน

น.ส.พรรณิการ์ วานิช กรรมการบริหารคณะก้าวหน้า กล่าวสดุดีและคารวะดวงวิญญาณของวีรชน 14 ตุลาว่า เหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นการตื่นตัวของนิสิตนักศึกษา มวลชน กรรมกร ชาวนา ครั้งใหญ่ทั่วประเทศลุกฮือกัน แต่ชัยชนะครั้งนั้นกลายเป็นความพ่ายแพ้ มันไม่ใช่ชัยชนะที่ยั่งยืน บทเรียนจาก 14 ตุลา สอนให้รู้ว่าไล่เผด็จการออกไป เผด็จการคนใหม่ก็เกิดขึ้นเสมอ ตราบใดที่เราไม่เปลี่ยนโครงสร้างประเทศให้รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง และปฏิรูปทุกสถาบันให้อยู่ใต้รัฐธรรมนูญ

"วีระกร" รุกหนัก กดดันตู่! เคลียร์ใจ "ป้อม" บีบเปิดหน้าสมัครเข้า พปชร.

“ศิธา” ย้ำต้องมี ส.ส.ร.คืนอำนาจ ปชช.

น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) ร่วมวางพวงมาลาไว้อาลัยต่อวีรชน 14 ตุลา โดยกล่าวว่า ความสูญเสียในอดีตเป็นบทเรียนให้เราเห็นถึงความไม่เป็นธรรมในสังคมและการเรียกร้องอำนาจอธิปไตยของประชาชน วันนี้เราต้องคืนอำนาจให้ประชาชนด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ร. ยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนจริงๆ เพื่อให้ยุติความขัดแย้งและให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ด้วยเสียงของประชาชนโดยแท้จริง ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยกำลังเปิดให้มีการลงชื่อร่วมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ฉบับประชาชน โดย ส.ส.ร.

แขวะผู้นำต้องใจกว้างรับคำวิจารณ์

เมื่อถามกรณีเดี่ยว 13 ของโน้ส อุดม แต้พานิช โจมตีรัฐบาล น.ต.ศิธากล่าวว่า เป็นเรื่องบวก เพราะในระบอบประชาธิปไตยต้องพูดคุยได้ วิจารณ์ผู้มีอำนาจได้ ผู้นำต้องใจกว้าง เช่นเดียวกับกรณีนักร้อง 4 คน ที่ร้องเพลงเสียดสีนายกฯ ถ้าเอาคดีความมาปิดปากไม่ให้เขาพูด จากสิบจะเป็นหมื่นเป็นแสนต้องเปิดเสรีภาพการแสดงความเห็นและเปิดใจรับฟัง บางคนพูดแล้วมีเหตุผลมากกว่าผู้นำประเทศบางคน ยืนยันว่าเรายืนอยู่ข้างประชาชนตลอด

“อนุชา” ขอสืบสาน 3 หลัก ปชต.

นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า 14 ตุลา 19 เป็นเหตุการณ์สะท้อนถึงเจตนารมณ์ของประชาชนคนไทยที่รักและหวงแหนประชาธิปไตย สิทธิเสรีภาพ เสมอภาคและภราดรภาพ ครบรอบ 49 ปีเหตุการณ์ 14 ตุลา เป็นโอกาสที่เราระลึกว่าทำอย่างไรเราจะใช้สิทธิเสรีภาพที่เป็นอยู่ขณะนี้ให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประชาธิปไตย และประเทศชาติให้ยั่งยืน ขอรำลึกถึงวีรกรรม และขอสืบสานเจตนาอันแน่วแน่ในการส่งเสริมประชาธิปไตยอันแท้จริงไปสู่ประโยชน์สุขของประชาชนทุกคน

ติง “โน้ส” ทอล์กนายกฯไม่เหมาะ

นายอนุชากล่าวถึงกรณีกระแส “โน้ส” อุดม แต้พานิช ทอล์กโชว์เดี่ยว 13 วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม ว่า เป็นธรรมดาในเรื่องความเห็นต่างทางการเมืองของสังคม นี่คือระบอบประชาธิปไตย หากคำวิจารณ์ตรงไปตรงมาไม่อคติ เอาสนุกอย่างเดียวคิดว่าไม่มีปัญหา แต่หากประกอบด้วยอคติ และใส่เจตคติบางอย่างก็ทำให้สังคมเกิดความเคลือบแคลง เพราะเป็นศิลปินที่สังคมติดตามให้ความสนใจ ส่วนตัวมองว่า มีหลายอย่างเกินเลยไปบ้าง ไม่เหมาะสม คำพูดต่างๆอาจต้องระมัดระวังเพราะศิลปินเป็นผู้มีอิทธิพลทางความคิด เมื่อถามว่า โน้ส อุดม เคยวิจารณ์หลายรัฐบาลตั้งแต่สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร นายอนุชาตอบว่า ค่อนข้างไม่เหมือนกัน หากเปิดใจเป็นธรรมเราจะเห็น หากจะบอกว่าเหมือน คงไม่ใช่

พท.โว “เศรษฐา” ภาคธุรกิจตอบรับดี

ส่วนการเตรียมพร้อมลงสนามเลือกตั้ง วันเดียวกัน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการเตรียมเปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจ 1 ในแคนดิเดตนายกฯของพรรค ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.ว่า ยังไม่มีความชัดเจน พรรคยังไม่ได้พูดคุยกันเลย ยังไม่มีกำหนดการเลย คณะกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) รวมถึงทีมยุทธศาสตร์ยังไม่ได้พูดคุยกัน เราจะมีกระบวนการ แต่ยังไม่ได้ตกลงกันว่าจะเริ่มพูดคุยกันขั้นสุดท้ายเมื่อไหร่ อย่างไร ต้องดูสถานการณ์การเลือกตั้งเป็นหลัก เมื่อถามอีกว่า ประเมินหรือไม่ว่าชื่อนายเศรษฐานักธุรกิจจะขายได้ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน เพราะประชาชนอาจชอบนายกฯอีสานหรือคนในตระกูลชินวัตรมากกว่า นพ.ชลน่านกล่าวว่า ต้องดูกระแสตอบรับจากพี่น้องประชาชน มิติทางการเมืองเป็นเรื่องของประชาชน หากกระแสตอบรับดูความเป็นไปได้ก็เป็นไปได้สูง ทั้งนี้ การตอบรับในภาคธุรกิจค่อนข้างดี แต่ประชาชนทั่วไปอาจยังไม่รู้จัก ต้องไปดูในส่วนนั้นก่อน

"วีระกร" รุกหนัก กดดันตู่! เคลียร์ใจ "ป้อม" บีบเปิดหน้าสมัครเข้า พปชร.

แคนดิเดตนายกฯรอคุยให้ชัดๆ

นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า กระแสข่าวเตรียมเปิดตัวนายเศรษฐา ทวีสิน เป็น 1 ในแคนดิเดตนายกฯของพรรค ช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.ว่า พรรคยังไม่ได้กำหนดถึงขั้นนั้น ต้องคุยกันก่อน ต้องมีกระบวนการ กก.บห.ยังไม่ได้นำเสนอแคนดิเดตนายกฯ จะเป็นไปได้หรือไม่ยังตอบไม่ได้ เพราะจะเป็นการชี้นำ ต้องเป็นความเห็นของ กก.บห.และแจ้งไปยังพรรคและ ส.ส.ด้วย เมื่อถามว่าประเมินหรือไม่ว่าชื่อนายเศรษฐาเป็นนักธุรกิจจะขายได้ในพื้นที่ภาคเหนือและภาคอีสาน เพราะประชาชนอาจชอบนายกฯอีสานหรือคนตระกูลชินวัตรมากกว่า นายประเสริฐกล่าวว่า เรื่องนี้ยังไม่ได้มีการพูดคุยกันถึงระดับ กก.บห.ต้องรอความชัดเจนก่อน

ซัด “ลุงตู่” ปรับ ครม.ปชช.ไม่ได้อะไร

นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายกฯเตรียมจะปรับ ครม.แต่ให้รออีกนิดว่า จะปรับหรือไม่ปรับ ครม.มีผลเท่าเดิม ประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรเลย แค่แก้ปัญหาให้พรรคร่วมรัฐบาล ตราบใดที่นายกฯยังเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ยิ่งไม่มีประโยชน์และไม่จำเป็นต้องยุบสภาแล้ว ยุบหรือไม่ยุบไร้ประโยชน์ อายุสภาเหลือแค่ 5เดือน เชิญอยู่กันตามสบาย ประชาชนรอเลือกตั้งครั้งใหม่ให้ได้รัฐบาลจากประชาชนมาแก้ไขปัญหาประเทศ เลือกตั้งครั้งหน้าจะเป็นคำตอบให้รัฐบาลชุดนี้ว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดตอบโจทย์ประชาชนหรือไม่ ส่วนแคนดิเดตนายกฯของพรรค พท. อย่าเพิ่งไปตื่นเต้นอะไร อาจมีคนอื่นเข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกฯเพิ่มเติมอีกก็ได้ ใจเย็นๆพรรคเสนอแคนดิเดตนายกฯครบ3ชื่อแน่

ทสท.พร้อมจับมือคนไม่เอาเผด็จการ

น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงยุทธศาสตร์การเลือกตั้งว่า หากการคำนวณ ส.ส.ใช้สูตรหาร 100 โอกาสที่พรรคใหม่และพรรคเล็กจะได้ ส.ส.ถึง 25 คน ตามเกณฑ์ขั้นต่ำที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้ชื่อเสนอเป็นแคนดิเดตนายกฯยากมาก ทำให้แต่ละพรรคต้องรวมกันถึงจะมีโอกาสมากขึ้น แต่การรวมกันต้องพูดคุยกันอีกเยอะ ยังไม่คืบหน้าเท่าที่สื่อมวลชนคาดการณ์เพราะหากเป็นปลาคนละน้ำก็รวมกันลำบาก เมื่อถามว่าพรรคไทยสร้างไทยกับพรรคสร้างอนาคตไทยจะรวมกันได้หรือไม่ น.ต.ศิธากล่าวว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย (สอท.) กับคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค ทสท. เคยทำงานร่วมกันมา สมัยพรรคไทยรักไทย แต่นายสมคิดเคยเข้าร่วมรัฐบาลกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม มาก่อน จึงต้องดูว่าที่แยกตัวออกมาจากรัฐบาล เพราะผลประโยชน์หรืออุดมการณ์ไม่ตรงกัน หากเป็นเพราะอุดมการณ์ไม่ตรงกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะรวมกันได้ พรรค ทสท.มีจุดยืนไม่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจเผด็จการอยู่แล้ว หากจุดยืนตรงกันคุยกันได้ และการพูดคุยจะไม่ทำอย่างลับๆล่อๆ

“ปุ้ม” ยันควบรวม “สมคิด” ต้องเบอร์ 1

นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ รองหัวหน้าพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า การรวมพรรคต้องดูนโยบายอุดมการณ์ บุคลากรว่าการทำงานเข้ากันได้ไหม ต้องยึดมั่นในประชาธิปไตย ไม่เป็นนั่งร้านให้เผด็จการทั้งต่อหน้าและลับหลัง พรรคชูการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ มีชุดความคิดใหม่ชัดเจนและเสนอชื่อนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคเป็นแคนดิเดตนายกฯคนที่ 1 เป็นจุดยืนที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ หาก น.ต.ศิธา ทิวารี เลขาธิการพรรค ทสท. ตั้งคำถามเกี่ยวกับนายสมคิดออกจากรัฐบาลประยุทธ์ ชัดเจนว่าไม่ใช่เรื่องผลประโยชน์ หากแต่เป็นแนวทางอุดมการณ์ทำงานที่ไม่ตรงกัน ต้องถามกลับว่าที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค ทสท.ออกจากพรรคเพื่อไทยผลประโยชน์ไม่ลงตัวหรือไม่เชื่อใจฝั่งประชาธิปไตย

"วีระกร" รุกหนัก กดดันตู่! เคลียร์ใจ "ป้อม" บีบเปิดหน้าสมัครเข้า พปชร.

สร.พึ่งตัวเองได้โวยข่าวปล่อยยุบรวม

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนนโยบาย พรรคเสรีรวมไทย (สร.) กล่าวถึงกระแสข่าวพรรค สร.จะไปรวมตัวกับพรรคอื่นว่า เป็นการปล่อยข่าวโยนหินถามทาง พรรคอยู่ในสถานะพึ่งตัวเองได้ มีคะแนนนิยมระดับกว้างพอสมควร ไม่เดือดร้อนกับกติกาเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลง หรือก่อให้เกิดความเสียหายมาก บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ เชื่อว่าทำให้คนตัดสินใจเลือกพรรค สร.ง่ายขึ้น จะได้คะแนนนิยมมากกว่าเดิม 2 เท่า ครั้งที่แล้วบัตรใบเดียวได้ 8 แสน รอบนี้จะได้ 2 ล้านเสียง ไม่มีประเด็นวิตกที่พรรคจะยุบไปรวมกับพรรคอื่น พรรคจะส่ง ส.ส.เขตครบ 400 เขต เตรียมเปิดตัวในการประชุมใหญ่ปลายเดือน ต.ค.นี้

“วีระกร” ยัน พปชร.ไม่ขอปรับ ครม.

นายวีระกร คำประกอบ ส.ส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการปรับ ครม. ว่า 2 ตำแหน่งที่ว่าง พรรค พปชร.จะไม่ขอปรับ พรรคเราไม่ค่อยวุ่นวาย แม้สมาชิกพรรคบางคนอยากเป็นรัฐมนตรี แต่ตอนนี้ใกล้จะเลือกตั้งแล้วคนจะมาเป็นรัฐมนตรีคงจะลำบาก จึงไม่เป็นแรงกดดันอะไรมากมาย พรรค พปชร.น่าจะไม่ขอให้ปรับ ครม. เพราะหากปรับจะยุ่งคนนั้นได้เป็นคนนี้ไม่ได้ คงมีพรรคประชาธิปัตย์พรรคเดียว

จี้ 2 ป.เคลียร์แคนดิเดตนายกฯ

เมื่อถามว่า พปชร.จะเปิดตัวแคนดิเดตนายกฯช่วงใด นายวีระกรกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร. จะพูดคุยกันเมื่อใด เราได้ส่งสัญญาณไปแล้วว่าต้องรีบคุยกันได้แล้ว ท่านก็ยังเงียบจะไปเอาใกล้ๆหน้างานไม่ได้ ตอนนี้เงื่อนไขชัดเจนแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์อยู่ได้ 2 ปี ต้องเลือกแล้วจะให้ พล.อ.ประยุทธ์หรือ พล.อ.ประวิตรเป็นนายกฯ และพรรคต้องมีมือเศรษฐกิจที่ประชาชนไว้ใจและเชื่อมั่น เข้ามาเป็นแคนดิเดตนายกฯอีกคนหนึ่งให้เต็ม 3 รายชื่อ เพื่อเรียกความนิยมให้พรรคมากขึ้น แต่หาคนเด่นเรื่องเศรษฐกิจยาก

บี้ “บิ๊กตู่” เลิกทำตัวไม่รู้ร้อนหนาว

“พปชร.ต้องรีบสรรหาคนที่ใช้ได้ ประชาชนฟังแล้วโอเค ส่วน พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.ประวิตรต้องเป็นแคนดิเดตเบอร์ 1 และเบอร์ 2 ต้องพูดคุยกันตั้งแต่ต้นฤดูกาลนี้แล้ว เหลือเวลาอีก 5-6 เดือน คุยกันให้จบอย่าเกรงใจกันไปเกรงใจกันมา ต้องรีบสร้างความมั่นใจเดี๋ยวนี้ รวมถึงต้องรีบประกาศนโยบายพรรค และ พล.อ.ประยุทธ์ต้องรีบเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคโดยด่วน จะมายืนอยู่อย่างนี้ไม่ได้ อย่าไปเที่ยวยืนไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ตรงไหนก็ไม่รู้ ต้องลงมาช่วยพรรค มาเป็นกรรมการบริหารพรรคร่วมกับ พล.อ.ประวิตร เพื่อช่วยกันเขียนนโยบาย เรียกประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค” นายวีระกรกล่าว

มอง “เศรษฐา–อุ๊งอิ๊ง” แค่ตัวหลอก

นายวีระกรกล่าวอีกว่า กระแสข่าวนายเศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจและ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย มีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกฯพรรคเพื่อไทยว่า ไม่จริงหรอก นายทักษิณ ชินวัตร คงจะมีลูกเล่น ยังไม่แน่นอน ตอนนี้แค่โยนหินถามทาง ปล่อยข่าวลวงกันไปตามเรื่องตามราว คิดว่ายังไม่จริงจังอะไร เมื่อถามว่าแกนนำพรรคเพื่อไทยแสดงท่าทีสนับสนุนทั้ง 2 คน น่าจะเป็นความชัดเจนหรือไม่ นายวีระกรกล่าวว่า พรรคนี้อยู่ที่นายทักษิณคนเดียวคนอื่นพูดก็พูดไป นายทักษิณจะมีการหักมุมในช่วงใกล้เลือกตั้ง เป็นเรื่องที่เราคาดไม่ถึง ยกตัวอย่างที่ให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เปิดตัวชิงนายกฯก่อนหน้ายุบสภาเลือกตั้งไม่กี่เดือน นายทักษิณมองไว้แล้วว่าจะเอาใคร น.ส.แพทองธารอาจจะอยู่ในใจ แต่พรรษาทางการเมืองยังไม่ได้ ส่วนนายเศรษฐา ไม่มีความเด่นอะไรมากมาย

"วีระกร" รุกหนัก กดดันตู่! เคลียร์ใจ "ป้อม" บีบเปิดหน้าสมัครเข้า พปชร.

พช.ลั่นแก้ปัญหาชาตินี้ไม่รอชาติหน้า

เมื่อเวลา 13.00 น.ที่หอประชุมธรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พรรคเพื่อชาติ จัดกิจกรรมเปิดตัวพรรคเพื่อชาติโฉมใหม่ “เพื่อชาติ (นี้) ไม่ต้องรอชาติหน้า” โดยเปิดตัว น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ รวมถึงคณะกรรมการบริหาร คณะทำงานและทีมนโยบายของพรรค มีผู้เข้าร่วมงานกว่า 5,000 คนจนเต็มห้องประชุมโดย น.ส.ปวิศรัฐฐ์กล่าวว่า พรรคเพื่อชาติให้ความสำคัญกับการศึกษา นักเรียนอาชีวะจบแล้วเงินเดือนควรได้ 15,000 บาท ไม่น้อยกว่าคนเรียนจบสายสามัญ การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) ต้องให้ความสำคัญ ยกตัวอย่างนักกีฬา กศน.ควรมีระบบการศึกษาดูแลในส่วนนี้

ปักธงลดเหลื่อมล้ำปั้น ศก.ที่เป็นธรรม

“เรามีความฝันว่าคนไทยทุกคนต้องได้เรียนฟรีทุกที่ทุกเวลาผ่านเทคโนโลยี ดาวเทียมต้องเป็นดาวเทียมเพื่อการศึกษาแห่งชาติ ไม่ใช่ดาวเทียมเพื่อเจ้าสัว แต่ต้องเริ่มที่สิ่งใกล้ตัวกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ต้องไม่มีดอกเบี้ย เพื่อติดอาวุธทางปัญญาให้คนในชาติไปแข่งขันกับนานาชาติ เราต้องลดความเหลื่อมล้ำในทุกมิติ เพื่อเศรษฐกิจที่เป็นธรรม ในชาตินี้ด้วยกัน ไม่ใช่อธิษฐานในชาติหน้า ได้เกิดในประเทศที่เห็นทุกคนเท่าเทียมกันมากกว่านี้ ได้มีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพมากกว่านี้ พรรคเพื่อชาติจะทำเพื่อเราทุกคนในชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า และไม่ต้องย้ายประเทศหนีไปไหน” หัวหน้าพรรคเพื่อชาติกล่าว

พับขากางเกงสื่อความไม่เท่าเทียม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้น น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ได้แนะนำคณะกรรมการบริหารพรรค ในนาม “ทีมทำเพื่อชาติ” ทั้ง 18 คนขึ้นบนเวที เพื่อแสดงวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนนโยบายด้านต่างๆครอบคลุมทั้งเรื่องความเท่าเทียม เศรษฐกิจที่เป็นธรรม ตลอดจนพัฒนาวิถีชีวิตและสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน เป็นที่สังเกตว่าทีมเพื่อชาติทุกคนต่างพับขากางเกงด้านซ้ายขึ้นทุกคน เพื่อสื่อความหมายถึงความเหลื่อมล้ำในประเทศ และพรรคเพื่อชาติจะอาสาเข้ามาขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำ เป็นจุดยืนหลักและนโยบายสำคัญของพรรคที่ชัดเจน

“จารุพล” อาสาทำให้ทุกคนเท่ากัน

จากนั้นมีการเปิดนโยบายพรรคแต่ละด้าน เช่น นโยบายความเป็นประชาธิปไตยและความเท่าเทียม โดย ร.อ.จารุพล เรืองสุวรรณ เลขาธิการพรรคเพื่อชาติ กล่าวว่า พรรค พช. ขออาสาทำให้ทุกคนเท่ากัน ไม่แบ่งแยกนำมาซึ่งความมั่นคงในประเทศ ขอทำให้ประเทศปลอดภัย น่าคบค้า น่ามาค้าขาย ทำชีวิตคนไทยให้มั่นคง ทัดเทียมนานาประเทศ เราจะนำความภาคภูมิใจมาสู่คนไทยทุกคน ทำให้เห็นในชาตินี้ ไม่ต้องรอชาติหน้า ด้านนายเทวกฤต พรหมมา รองหัวหน้าพรรค พช. บรรยายการเปลี่ยนระบบราชการจากการควบคุม กำกับตรวจสอบ เป็นการอำนวยความสะดวก กฎหมายหลายเรื่องไม่เอื้อประโยชน์ให้ประชาชน จึงต้องปฏิรูประบบราชการทุกด้าน

เล็งปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม

ขณะที่ พล.ต.ต.ชยุศ มารยาทตร์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อชาติ กล่าวถึงการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมว่า ในฐานะเคยรับราชการตำรวจจนเกษียณ อายุราชการ เคยทำงานที่เป็นต้นทางกระบวนการยุติธรรม เคยได้รับผลกระทบ ได้รับความเจ็บช้ำน้ำใจจากกระบวนการยุติธรรมเช่นกัน คงนอนตายตาไม่หลับหากไม่ได้ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมใน 3 ประการคือ 1.ประชาชนต้องได้รับประโยชน์จากการปฏิรูป 2.สิ่งที่เป็นปัญหา ข้อขัดข้อง กฎระเบียบ กฎหมายอะไรที่ล้าสมัยต้องยุบ ตัดทิ้ง ขจัดออกไป หลายคนต้องเข้าคุกทั้งที่ไม่ได้กระทำความผิด แต่คนชั่วหลายคนทำผิด ไม่ได้ไปอยู่ในคุก ที่เป็นเช่นนี้เพราะกระบวนการยุติธรรมบางภาคส่วนล้มเหลว ไม่เป็นธรรม มีความเหลื่อมล้ำระหว่างคนจนกับคนรวย และคนไม่มีเส้นสาย

โชว์ใช้แรงโน้มถ่วงลดต้นทุนการผลิต

ช่วงท้ายนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภาและอดีต รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กล่าวบนเวทีตอนหนึ่งว่า พื้นฐานของประเทศไทย สิ่งที่ได้เปรียบที่สุดคือการเกษตร แต่ถูกสร้างภาพว่าจะเป็นหนี้ เราลดต้นทุนการผลิตได้โดยใช้แรงโน้มถ่วงของโลกให้เป็นประโยชน์ แต่ที่ผ่านมาการจัดโซนนิงประเทศเป็นการเอาใจแต่เจ้าสัว เอาโรงงานไปไว้ข้างแม่น้ำ เพื่อความสะดวกในการขนส่ง พอถึงหน้าน้ำก็เป็นปัญหาอีก เราต้องจัดโซนนิงประเทศกันใหม่ เช่น ภาคเหนือเป็นพื้นที่สูง เมื่อมีฝนตกควรทำท่อส่งน้ำใช้แรงโน้มถ่วงให้เป็นประโยชน์แก่การทำการเกษตร ส่วนจะเป็นอย่างไรนั้น พรรคเพื่อชาติจะทำให้ดู

ปลุกต่อสู้นายทุนปฏิรูปแบ่งทรัพยากร

นายยงยุทธกล่าวว่า ที่ผ่านมาเราไปให้ความสนใจกับโครงการใหญ่ แล้วลืมการต่อยอดสิ่งที่มีอยู่ในธรรมชาติ เช่น สมุนไพรต่างๆ เรามีของดีที่เทวดาสร้างให้ แต่โชคร้ายที่มีผู้บริหารไม่มีประสิทธิภาพพาหลงทางไปตามฝรั่ง วันนี้ห้างใหญ่ๆทั่วโลกมีแต่การขายสมุนไพร แต่ประเทศไทยกลับปล่อยปละละเลย แล้วเป็นไปได้อย่างไรที่คนหนึ่งรวยจนจำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง กับอีกคนจนเสียจนไม่รู้ว่ามีอะไรบ้าง แต่อยู่ประเทศเดียวกัน พี่น้องที่อยู่ตรงนี้พับขากางเกงกันหรือยัง ถ้าใครมาถามบอกเขาไปว่าเรากำลังต่อต้านความเหลื่อมล้ำในสังคม และชักจูงให้คนที่ถามทำด้วยเพื่อร่วมต่อสู่ด้วยกัน ถ้าปล่อยให้คนพวกนั้นรวยไปจนตาย แล้วค่อยให้เงินไหลมาที่เรา หากรอไม่ไหวต้องช่วยกันเลือกพรรคเพื่อชาติ ถึงเวลาต้องปฏิรูปการจัดสรรทรัพยากร การต่อสู้รอบนี้ถ้าเราอยู่ร่วมกัน เอาพรรคเพื่อชาติเป็นที่ยืน วันใดเรารวมตัวกันมากขึ้น จะใช้พรรคเป็นเครื่องมือจัดสรรทรัพยากรช่วยคนยากคนจน

ขอเป็นตัวจริงสลัดเงา พท.

น.ส.ปวิศรัฐฐ์ ติยะไพรัช หัวหน้าพรรคเพื่อชาติ (พช.) ให้สัมภาษณ์ว่า พช. ต้องการสลัดภาพออกจากพรรค พท. ภาพจำใหม่ของเราคือการสร้างความหวังให้คนในชาติ ทุกคนต้องเดินต่อไปด้วยกัน ร่วมกันแก้ปัญหา ตนเชื่อในเสรีภาพของทุกคน เลือกในสิ่งที่เราชอบ เลือกในสิ่งที่เป็นความหวังจะทำให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น เลือกตั้งครั้งหน้าตั้งเป้าหมายต้องได้ ส.ส. และคะแนนเสียงมากกว่าเดิม ไม่ใช่พรรคภาคใดภาคหนึ่ง ไม่เป็นพรรคเฉพาะกิจไม่ใช่พรรคชั่วคราว ไม่ใช่พรรคสำรอง แต่เป็นพรรคของคนในชาติ ตั้งใจส่ง ส.ส. ครบทุกเขต แข่งกับทุกพรรค เพื่อเป็นตัวจริงของประชาชน

แย้มส่งชื่อแคนดิเดตนายกฯ

น.ส.ปวิศรัฐฐ์กล่าวอีกว่า แคนดิเดตนายกฯของพรรคจะเป็นคนอื่น เพราะปีนี้อายุตนยังไม่ถึง พรรคได้ทาบทามแคนดิเดตนายกฯไว้แล้ว ส่วนโลโก้พรรคที่เปลี่ยนเป็นสีเขียวคือ สีธรรมชาติ เพื่อชาติไม่ได้มุ่งหวังทำเพื่อคน แต่เรามองถึงสิ่งมีชีวิต สัตว์โลกและสิ่งแวดล้อม เมื่อถามว่า การบริหารงานในพรรคเพื่อชาติจะทำได้หรือไม่ เพราะทุกอย่างดุเดือด

น.ส.ปวิศรัฐฐ์กล่าวว่า ตอนอายุ 27 ที่เข้าไปบริหารทีมฟุตบอลก็มีคำถามเช่นนี้ แต่ก็ประสบความสำเร็จกับการบริหารทีมฟุตบอลมาได้ ภาวะผู้นำไม่ได้ขึ้นอยู่กับเพศ อายุ เราอยากเห็นผู้นำแบบไหนก็เป็นแบบนั้น

“ยงยุทธ” เป็นนั่งร้านขายนโยบายต่าง

ด้านนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภาให้สัมภาษณ์ว่า ขณะนี้ไม่มีแรงจูงใจทำงานการเมืองในสภาฯ จะเป็นเพียงผู้สนับสนุนกลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้เข้ามารับวัฒนธรรมและนวัตกรรมใหม่ๆ นำพาประเทศต่อสู้กับประเทศต่างๆ จะเป็นเพียงนั่งร้านคอยอำนวยความสะดวกให้คนรุ่นใหม่ และจากการทำงานร่วมกันกับผู้บริหารพรรค แนวทางพรรคจะแตกต่างจากการเมืองเดิม โดยเฉพาะแนวคิดแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เราอยู่กับทุนผูกขาดมานานจนเกิดช่องว่างระหว่างคนจนคนรวย เพราะประเทศไทยเป็นเหยื่อแนวคิดประเทศตะวันตกหลังสงครามเย็นที่โครงสร้างเศรษฐกิจต้องเป็นโครงการใหญ่ ทำให้ไปกระจุกที่คนไม่กี่กลุ่ม ประเทศเราเป็นประเทศการเกษตร แต่คนที่ทำการเกษตรกลับยากจน คนทำธุรกิจเกี่ยวกับการเกษตรกลับเป็นเศรษฐี

ชูธง “เกษตรพลัส” เพิ่มรายได้ ปชช.

“นโยบายพรรคเพื่อชาติจะหันไปใช้ “เกษตรพลัส” ที่มีหลักการต่อยอดผลิตภัณฑ์ภาคต่างๆเพื่อเพิ่มมูลค่าสร้างรายได้ให้กับพี่น้องเกษตรกรและประชาชน เช่น เกษตรบวกกับการท่องเที่ยว เกษตรบวกกับกีฬา และเกษตรอินทรีย์ ยืนยันว่าพรรค พช.ไม่ได้เป็นพรรคสำรองพรรคพี่พรรคน้องของใคร แต่มีแนวทางของตัวเองในการพัฒนาประเทศ หากผมอยู่ในพรรคอาจเกิดข้อสงสัยได้แต่ผู้บริหารชุดใหม่มีแนวทางของตัวเองและประชาชนจะตัดสินเอง ขอให้เข้าใจว่าพื้นที่เราไม่ทับซ้อนกับพรรคเพื่อไทยหรือพรรคใด เพราะนโยบายของเราต่างจากพรรคอื่นโดยสิ้นเชิง ยกเว้นเรื่องการเมืองที่มีค่านิยมประชาธิปไตยเหมือนกัน” นายยงยุทธกล่าวและว่า ขอยืนยันว่าจะไม่ลงสมัคร ส.ส.ไม่เป็นผู้ใหญ่บ้าน ไม่เป็นกำนัน ถ้าไม่ตายเสียก่อนจะช่วยทำงานสัก 10 ปีก็หมดหน้าที่แล้ว เมื่อถามว่าเชียงรายยังเป็นพื้นที่เป้าหมายหลักหรือไม่ นายยงยุทธกล่าวว่า พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่เดิมของตน แต่คงต้องถามผู้บริหารพรรคปัจจุบันให้เขาคุยกัน ตนมีหน้าที่ป้อนประสบการณ์

 

{Fullwidth}
แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื่อโฆษณา

ไทยบ้านผือนิวส์
"ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771-สนใตลงสื่อโฆษณา0612301227 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.