ต้องติดดินถึงจะแลนด์สไลด์
ในยามที่บ้านเมืองกำลังทุกข์เข็ญ ประชาชน เดือดร้อนอย่าง แสนสาหัส ผู้นำต้องอยู่เคียงข้างประชาชน ติดดิน ไม่ทำตัวอยู่เหนือปัญหา ลอยตัว หนีปัญหา จึงจะเป็นผู้นำที่ดีได้การเดินหน้าทำงานให้คน กทม.ในวินาทีแรกที่ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นผู้ว่าฯ กทม.ของ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เข้าถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนทุกปัญหาด้วยตัวเอง ทั้งเรื่องปัญหาคูคลอง ความเดือดร้อนในชุมชน ได้ใจคน กทม.ไม่ต้องไปลีลา อะไรมากมาย โดยเฉพาะภาพที่ ชัชชาติ ลงไปดูงานร่วมกับ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ที่เคยเป็นคู่แข่งกันมา ก็ยิ่งทำให้คน กทม.สบายใจว่า การดำเนินงานของ กทม.จะอยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมือง
ได้แต่โฟกัสไปที่ กระทรวงหมาดไทย และ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะยินดีร่วมมือทำงานกับผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่อย่างไรหรือไม่ สมมติว่า ผู้ว่าฯ กทม.คนใหม่ จะเป็นชื่อของ สกลธี ภัททิยกุล หรือ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง หรือ สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ จากประชาธิปัตย์ ก็คงไม่ต้องตั้งคำถามนี้แล้ว
ร่วมด้วยช่วยดัน
“แสนดี” แสนปิติ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของงบประมาณ ระบบคมนาคมขนส่งโดยสาร รถเมล์ รถไฟ รถไฟฟ้า แม้แต่การจัดระเบียบการจราจร ก็จะต้องใช้วิธีตัดสินใจร่วมกันระหว่างรัฐบาลกับ กทม.ทั้งสิ้น ดูอย่างโครงการ รถไฟฟ้าสีเขียวสีส้มนั่นปะไร คาราคาซัง เพราะยังตกลงกันไม่ได้ ระหว่างมหาดไทย กทม.และคมนาคม ขวางกันไปขวางกันมา จนหนี้รถไฟฟ้าเอกชนบานตะไท จาก 4 หมื่นล้านจะเป็น 6 หมื่นล้านแล้ว
ที่ต้องจับตาเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่กว่า นโยบาย 214 ข้อของผู้ว่าฯ ชัชชาติ เพราะถ้ารัฐบาล มหาดไทยและคมนาคมไม่โอเค กทม. ก็ไม่มีอำนาจไปแก้ไขปัญหาที่คาราคาซังได้
เรื่องของอำนาจการบริหารใน กทม.ไม่ใช่เรื่องใหญ่เห็นจากบรรยากาศและจำนวน ส.ก. ฝ่าย ผู้ว่าฯ ชัชชาติ แล้วไม่มีปัญหา จะมี ปัญหาคือ การล้วงลูกจากรัฐบาล และเชื่อว่า การเล่นเกม ระหว่างรัฐบาลกับ กทม.มีวาระซ่อนเร้นแน่นอน เพราะการเลือกตั้งใหญ่ ที่ กทม. เป็นพื้นที่มีจำนวน ส.ส.มากที่สุดย่อมจะเป็นที่ต้องการของทุกพรรค การเมือง และการที่จะเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลถ้าไม่มี ส.ส.กทม.ของพรรคแม้แต่คนเดียวก็ดูองค์ประกอบไม่สมบูรณ์ แต่อดเป็นห่วง ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ถึงปัญหาในอนาคตไม่ได้ ที่ไม่ต่างจากมรสุมการเมืองลูกใหญ่
ความนิยมของ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ส่วนหนึ่งที่ชาวบ้านทุกรุ่นทุกเพศทุกวัยไปลงคะแนนให้ ก็เพราะบุคลิกของ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ที่อยู่เหนือความขัดแย้งทางการเมืองนั่นเอง
ในทางกลับกันที่ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ได้คะแนน แบบแลนด์สไลด์ เที่ยวนี้ก็เพราะความติดดินของ ผู้ว่าฯ ชัชชาติ ตลอดเวลา 2 ปี ที่ลงพื้นที่ด้วยตัวเอง เลยรู้ปัญหาของคน กทม.ได้เป็นอย่างดี
และผลของการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.เที่ยวนี้ยังสร้างความมั่นใจให้กับพรรคเพื่อไทย ที่มีอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร มาเป็นผู้นำของ คนรุ่นใหม่ในพรรค ถ่ายเลือดกันไปเรียบร้อย รอเวลาเลือกตั้งใหญ่ที่จะกลับมาทวงแชมป์แบบแลนด์สไลด์ และเชื่อว่าเพื่อไทยเองก็คง จะฟันธงในใจเอาไว้เรียบร้อยแล้ว ไม่เอาคณะปฏิวัติรัฐประหารแน่.
หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th
{fullwidth}
