ข่าวบ้านผือวันนี้ "ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.

เขย่า กทม.ที่ต้นตอโครงสร้างปัญหา : เปลี่ยนโฉมเมืองหลวงบทบาทผู้ว่าฯ

เขย่า กทม.ที่ต้นตอโครงสร้างปัญหา : เปลี่ยนโฉมเมืองหลวงบทบาทผู้ว่าฯ กทม.บริหารอย่างเดียวไม่ได้ ต้องแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างให้ถึงรากเหง้าออกกติกา-จัดสรรงบประมาณที่เป็นธรรม มันเป็นการปฏิรูประบบราชการไปในตัว สุดท้ายกระตุ้นคนตัวใหญ่ช่วยแก้ปัญหาเมืองให้เข้ามาโอบรัดปัญหาเมืองด้วยกัน และเกิดความมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายชีวิตชาว กทม. ถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล ย้ำแล้วย้ำอีกเป็นระยะตลอดที่ให้สัมภาษณ์กับ ทีมข่าวการเมือง ถึงความตั้งใจและมุ่งมั่นเข้าไปผลักดัน 12 นโยบายที่ตอบโจทย์เมืองหลวงซึ่งเชื่อมโยงร้อยรัดขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซาก และพัฒนากรุงเทพฯให้ขึ้นแท่นมหานครระดับต้นๆของโลก เป็นเมืองแห่งซอฟต์เพาเวอร์และเมืองแห่งความเท่าเทียม


เขย่า กทม.ที่ต้นตอโครงสร้างปัญหา : เปลี่ยนโฉมเมืองหลวงบทบาทผู้ว่าฯ กทม.บริหารอย่างเดียวไม่ได้ ต้องแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างให้ถึงรากเหง้าออกกติกา-จัดสรรงบประมาณที่เป็นธรรม มันเป็นการปฏิรูประบบราชการไปในตัว สุดท้ายกระตุ้นคนตัวใหญ่ช่วยแก้ปัญหาเมืองให้เข้ามาโอบรัดปัญหาเมืองด้วยกัน และเกิดความมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายชีวิตชาว กทม. ถึงเกิดการเปลี่ยนแปลงดีขึ้นนายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล ย้ำแล้วย้ำอีกเป็นระยะตลอดที่ให้สัมภาษณ์กับ ทีมข่าวการเมือง ถึงความตั้งใจและมุ่งมั่นเข้าไปผลักดัน 12 นโยบายที่ตอบโจทย์เมืองหลวงซึ่งเชื่อมโยงร้อยรัดขจัดปัญหาที่เกิดขึ้นซ้ำซาก และพัฒนากรุงเทพฯให้ขึ้นแท่นมหานครระดับต้นๆของโลก เป็นเมืองแห่งซอฟต์เพาเวอร์และเมืองแห่งความเท่าเทียม

เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.

โดยเชื่อมั่นคนรับรู้ข้อมูลเชิงนโยบาย ให้ความสำคัญกับนโยบายมากขึ้น ไม่เชื่อว่าคน กทม.ตัดสินใจเลือกคาแรกเตอร์จากอารมณ์ของผู้สมัครเหมือนที่ผ่านมา

พอได้ปุ๊บ!! ทำทันทีทุกนโยบายในเทอม 4 ปี บางนโยบายอาจมีข้อติดขัดบ้าง แต่ในภาพรวมสัมผัสได้ถึงความพยายามในการทำทั้ง 12 นโยบาย

อาทิ การกระจายงบประมาณลงชุมชน 2,000 ชุมชน และอีก 50 เขต ที่ตั้งงบประมาณไว้ 4 พันล้านบาท รวมถึงการท็อปอัปสวัสดิการ เอาเงินจากภาษีที่ดินเข้ามาอุดหนุนสวัสดิการให้ชาว กทม. โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็กเล็กตั้งแต่เกิด-6 ปี และผู้พิการ อันนี้ให้คำมั่นได้ปุ๊บทำตูมเลย

ขณะเดียวกันการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่รั่วไหลอยู่ ประเมินต่ำๆต้องเก็บได้ 1.5 หมื่นล้านบาท แม้ที่ผ่านมาตั้งเป้าได้ 1 หมื่นล้าน แปลกไหมเก็บได้แค่ 5 พันล้านบาท

ฉะนั้นเก็บได้เต็มเม็ดเต็มหน่วยราว 1.8 หมื่นล้านบาท และน่าจะเก็บได้ถึง 2.2 หมื่นล้าน

ตอนนี้ดูสิใจกลางเมือง นายทุนต่างๆเอาพื้นที่ไปปลูกกล้วย มะนาว แสร้งทำเป็นพื้นที่เกษตรกรรม ผมต้องยุติเรื่องนี้ให้ได้

เพื่อความเป็นธรรมและแก้ปัญหารั่วไหลภาษีที่ดิน

ยังมีค่าธรรมเนียมขยะ ต้องเพิ่มจัดเก็บกับผู้ประกอบการ นายทุนใหญ่ ซึ่งผลิตขยะปริมาณมหาศาล ขณะที่ กทม.มีต้นทุนกำจัดขยะปีละ 7 พันล้านบาท แต่จัดเก็บค่าขยะได้แค่ 500 ล้านบาท

ค่าจัดการขยะขาดทุนยับ จะขึ้นค่าขยะ อ้าว!! ผลักภาระให้กว่า 2.4 ล้านครัวเรือน เท่ากับปิดตาข้างเดียว เพราะมีนายทุนห้างสรรพสินค้า นายทุนค้าปลีก ที่ผลิตขยะสด 50% ของขยะสดทั้งหมดใน กทม.

ฉะนั้นเฟสแรกเริ่มเก็บค่าขยะให้เป็นธรรมก่อน

เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นายทุนใหญ่คัดแยกขยะ กทม.ก็ลดค่าจัดเก็บขยะให้ หากนายทุนใหญ่อยากทำธุรกิจอย่างเดียวและต้องการได้ส่วนลดค่าเก็บขยะ ก็มีทางเลือกเปิดให้มีบริษัทเข้ามาจัดการคัดแยกขยะได้หรือไม่

ก็เกิดธุรกิจใหม่เข้าไปคัดแยกขยะช่วยนายทุนใหญ่ กทม.ได้จัดการขยะ และมีบริษัทใหม่เกิดขึ้นไปจัดการขยะ เกิดอาชีพใหม่เพื่อสังคม

เช่นเดียวกับภาษีป้าย ธุรกิจบิลบอร์ด ซึ่งประเมินต่ำๆ มูลค่าตลาดที่ 2 หมื่นล้านบาท เก็บภาษีป้ายได้แค่ 1 พันล้านบาท

โดยไปรีดภาษีป้ายจากคนที่จ่ายค่าภาษีป้ายอยู่แล้ว ส่วนใหญ่ติดป้ายตามตึกแถว เป็นคนทำธุรกิจทั่วไป แต่นายทุนบิลบอร์ดขนาดใหญ่จ่ายภาษีป้ายแค่ 30% ถ้าเก็บเต็มเม็ด เต็มหน่วยจะได้ 2.5- 3 พันล้านบาท

“เราเปรียบผู้ว่าฯ กทม.เป็นซีอีโอ เปรียบเทียบชาว กทม.เป็นบอร์ด เลือกผู้ว่าฯ กทม.มาเป็นซีอีโอบริษัท หน้าที่ของซีอีโอต้องหารายได้เข้าองค์กร เพื่อผลักดันนโยบายลดความเหลื่อมล้ำของสังคม

สมมติจัดเก็บภาษีได้ 1 หมื่นล้าน เก็บค่าธรรมเนียมขยะที่เพิ่มมาจากนายทุนใหญ่ รวมทั้งหมด 2 พันล้าน ภาษีป้ายอีก ตัวเลขกลมๆ เก็บภาษีภาพรวมได้สัก 1.3-1.5 หมื่นล้านบาท

เอาเงินส่วนนี้ไปสร้างสวัสดิการ ลดความเหลื่อมล้ำ อาทิ ฉีดวัคซีนปอดอักเสบอายุ 65 ปีขึ้นไป เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยติดเตียงและป้องกันผู้สูงอายุไม่เสี่ยงเป็นโรคปอดอักเสบ”

นโยบายปราบคอร์รัปชัน แก้ปัญหาทุจริตก็เช่นกัน หลายคนมองแค่มิติปราบโกง แต่ความจริงมันมีมิติเกิดความไม่เป็นธรรมกับคน กทม.

เกิดการโกงก็ต้องจัดการ

กำลังสะท้อนให้เห็นทุกนโยบายเน้นแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เพื่อออกกติกาที่เป็นธรรม และทำให้คนกรุงเทพฯเท่ากัน แต่มันต้องเข้าไปทะเลาะกับกลไกของ กทม. ถึงแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างได้ นายวิโรจน์ บอกว่า ไม่ได้ทะเลาะ

เท่าที่สัมผัสข้าราชการใน กทม. 90% พร้อมทำงานกับผู้ว่าฯ กทม. ที่ตรงไปตรงมา เบื่อระบบการทำงานที่ไร้ธรรมมาภิบาล ขอเพียงให้ผู้ว่าฯ กทม.เป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็กให้

เราต้องเคลียร์เรื่องนี้ให้ได้ ทลายข้อจำกัด ไม่เอาระเบียบมาปฏิเสธประชาชน ผู้ว่าฯ กทม.ต้องยืนยันเป็นกำแพงเหล็กให้คนที่ทำงานถูกต้อง ทำงานให้กับประชาชน ให้งานรูทีนมันไหลได้

แล้ว...มันจะเปลี่ยน!!

แบบนี้ผู้ว่าฯ กทม. ถึงมีเวลาไปทำในสิ่งที่ประชาชนทำเองไม่ได้ ไปช่วยประชาชนแก้ปัญหา เช่น โรงขยะที่สร้างกลิ่นเหม็น ซึ่งพบว่ามีผู้รับเหมาที่ถูกตั้งข้อสันนิษฐานเป็นเครือข่าย คสช.หรือทหาร รู้จักคนใหญ่คนโต

จริงไม่จริงไม่รู้...ผู้ว่าฯ กทม.ต้องจัดการ

เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับชาว กทม.

ซึ่งจะทำให้คนตัวใหญ่หรือทุนใหญ่ คนตัวเล็กได้อยู่ร่วมกันในเมืองอย่างมีความสุข เมืองที่ดีต้องเป็นเมืองที่ให้โอกาสตั้งตัวกับทุกคน

ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีฝรั่งเศสออกมาแล้ว แต่มีคนรุ่นใหม่เบื่อนักการเมืองที่ส่วนใหญ่รับใช้คนรวย จึงไม่ออกไปใช้สิทธิหรืองดออกเสียง สอดคล้องกับรายงานของสิทธิมนุษยชนโลกที่เกิดการละเมิดสิทธิมนุษยชน เพราะรัฐและทุนไปทิศทางเดียวกัน ประชาชนจึงถูกกระทำ นายวิโรจน์ บอกว่า ใช่

แต่นิยามเฟิสต์โหวตเตอร์ของผมแปลก และเปลี่ยนไป โดยเห็นทุกคนเป็นเฟิสต์โหวตเตอร์
เพราะ 9 ปีไม่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. มันจำความรู้สึก จำบรรยากาศการเลือกตั้งแทบไม่ได้แล้ว และบริบทของ กทม.ในวันนั้นกับวันนี้มันเปลี่ยนไปมาก ทั้งวิธีคิด ค่านิยม มุมมองต่อสังคมของชาว กทม.

คน กทม.ยังมองปัญหาที่ใกล้ตัว ทั้งน้ำท่วม ทางเท้า ขยะ มลพิษ แต่วันนี้ได้มองลึกที่ต้นตอโครงสร้างปัญหา

ช่วงเวลาที่เหลือจะทำให้ “กรุงเทพฉบับวิโรจน์” แมตช์กับ “กรุงเทพฉบับชาว กทม.” ได้อย่างลงตัวอย่างไร นายวิโรจน์ บอกว่า โค้งสุดท้ายเชื่อว่าประชาชนตัดสินใจเลือกผู้ว่าฯ กทม.ที่นโยบาย

โดยเฉพาะนโยบายและวิธีคิดที่เป็นอัตลักษณ์ของผม และอัตลักษณ์ของก้าวไกล ที่ไม่ซ้ำใคร เพราะมองปัญหาเหมือนคนอื่นมอง แต่มองคนละมิติลึกลงถึงโครงสร้าง ถึงแก้ได้สะเด็ดน้ำ ไม่เช่นนั้นปัญหาก็วนลูปเดิม

มีการตีกันเบอร์ 1 โดยพยายามชี้ให้ชาว กทม.เห็นว่า ลงสมัครครั้งนี้หวังผลเพียงภาพใหญ่ทางการเมืองในการเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งต่อไป ไม่ได้หวังเป็นผู้ว่าฯ กทม. นายวิโรจน์ บอกว่า ตามผลสำรวจโพลของพรรคจากวันแรกจนถึงวันนี้ ผลการตอบรับดีขึ้นอย่างมาก พล็อตกราฟพุ่งขึ้นสูงมาก

แสดงว่าชาว กทม.เห็นตรงกับเรา ลำพังแค่การบริหาร กทม. ภายใต้ข้อจำกัดเดิมๆที่กระอักกระอ่วน กทม.อาจดีขึ้น แต่สุดท้ายวนกลับมาลูปเดิม

หลายคนก็แซวว่าถ้าอยากเปลี่ยน กทม.อย่างถาวร เพื่อเอาเวลาไปเผชิญกับความท้าทายใหม่ ต้องเลือก “วิโรจน์ไปเขย่า กทม.” ถ้าต้องผ่าตัดก็ต้องผ่าตัด เหมือนตัดเล็บขบ ตราบใดไม่ถอนเล็บที่มันแทงเนื้อออก จะทายาดีอย่างไรมันก็ดีขึ้น แต่ยังเจ็บเหมือนเดิม

ฉะนั้นวันนี้ผมหวังจะชนะ ขอยืนยัน

ถ้าฟังเสียงผมจะรู้ว่าพูดในฐานะผู้ชนะ

บนฐานความมั่นใจจากข้อมูลสถิติที่ถูกต้อง.

 

 

 

แสดงความคิดเห็น (0)
ใหม่กว่า เก่ากว่า

สื่อโฆษณา

ไทยบ้านผือนิวส์
"ร้านตัดผ้าวราภรณ์ รับตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี ชุดแบบฟอร์ม ชุดทำงาน ชุดไทย และจำหน่ายอุปกรณ์ประเภท ซิบ กระดุม ด้าย อื่นๆอีกมากมาย ยังจำหน่าย กรอบรูป ขายปลีกและส่งและยังบริการรับถ่ายรูปด่วน ขยายรูป ล้างรูป รับทำนามบัตร เคลือบบัตร ปริ้นงาน เข้าเล่ม สันเกียว สันกาว ถ่ายเอกสาร สีและขาวดำ ขนาดไซต์กระดาษตั้ง แต่ A4-F14-B4-A3 และยังบริการ ย่อ ขยายเอกสารฯลฯรับถ่ายทำ วีดีโอ ในและนอกสถานที่ราคาเป็นกันเอง ร้านตัดผ้าวราภรณ์อยู่ตรงข้าม โรงเรียนอนุบาลบ้านผือพิทยาภูมิถนนชนบทบำรุงอำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี ร้านตัดผ้าวราภรณ์ เปิด ปิดเวลา 06.00-18.00น. ทางร้านเปิดให้บริการทุกวัน ติดต่ดสอบถามโทร 0806299771-สนใตลงสื่อโฆษณา0612301227 email hs3ghd15.s@gmail.comแฟกช์ 042282304.